สรรพสามิตเปิดแนวกำกับค่ายรถอีวีร่วมมาตรการส่งเสริม
สรรพสามิตสั่งค่ายรถร่วมมาตรการส่งเสริมรถยนต์อีวีแจงโครงสร้างราคาทั้งหมดต่อกรมฯ ก่อนประกาศราคาขาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับส่วนลดภาครัฐอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ชี้ห้ามนำส่วนลดภาครัฐไปเป็นส่วนลดกำไรมาตรฐานแก่ลูกค้า
นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษก กรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า กรมฯ ได้กำหนดแนวทางกำกับดูแลค่ายรถยนต์ที่ต้องการเข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)ในประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่า เงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่จะใช้เป็นส่วนลดในการซื้อรถอีวีจะถึงมือประชาชนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
“เราจะให้ค่ายรถยนต์ที่เข้าร่วมมาตรการ ต้องดำเนินการตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ให้แจ้งโครงสร้างราคา ต้นทุนการนำเข้า ค่าบริหารจัดการ และส่วนลดที่จะมอบให้กับลูกค้า มาให้กรมฯพิจารณาอนุมัติก่อน เพื่อให้ลูกค้าได้รับส่วนลดจากเงินอุดหนุน และมาตรการภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย”
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ค่ายรถยนต์ ห้ามไมเนอร์ เชนจ์ หรือมีการปรับโฉม เช่น เปลี่ยนอุปกรณ์ ฟังก์ชันการใช้ทำงานเพียงเล็กน้อย เพื่อขึ้นราคาเป็นเวลา 2 ปี รวมถึง ห้ามนำเงินอุดหนุนที่ได้รับจากรัฐบาล ไปใช้ในส่วนลดกำไรมาตรฐานกับลูกค้า
“ปกติตัวแทนจำหน่าย ดีลเลอร์ กับค่ายรถยนต์ จะมีส่วนของแถมส่วนลดให้ลูกค้า เช่น แถมไฟตัดหมอก ล้อแม็ก หรือให้ส่วนลดตัวเงินอยู่แล้ว แต่ส่วนเงินอุดหนุนที่รัฐบาลให้นี้จะเป็นส่วนลดเพิ่มเติม โดยไม่นับรวมกับโปรโมชั่น หรือส่วนลดที่ดีลเลอร์แต่อย่างใด”
เขาย้ำว่า เรื่องนี้กรมฯ ตั้งใจดูแลอย่างรอบคอบ เพื่อการันตีว่าเงินของรัฐที่จ่ายอุดหนุน รวมถึง การลดภาษีจะไม่รั่วไหล และไปถึงมือผู้บริโภคอย่างครบถ้วน เพราะเงื่อนไขการให้เงินอุดหนุนมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้ารอบนี้ จะไม่เหมือนกับโครงการรถคันแรก
ทั้งนี้ สำหรับโครงการรถคันแรกนั้น จะเป็นการคืนเงินภาษีเท่ากับที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท ให้แก่ประชาชนที่ซื้อและครอบครองรถยนต์ไปแล้ว 1 ปี โดยผู้ซื้อต้องมาติดต่อกับหน่วยงานรัฐเพื่อรับเงินภาษีคืนเอง แต่ในส่วนมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าครั้งนี้ ภาครัฐจะให้เงินอุดหนุนโดยตรงกับดีลเลอร์ เพื่อให้ผู้ขายไปลดราคาให้กับลูกค้าต่ออีกทอด ไม่เป็นภาระแก่ผู้ซื้อในการต้องมาขอรับเงินอุดหนุนภายหลัง ซึ่งสะดวกกับคนซื้อมากกว่า
สำหรับส่วนลดราคารถยนต์ไฟฟ้า ที่ได้จากการเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนอีวี จะได้รับสูงสุดถึง 3 ต่อ ต่อแรกเป็นการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้าจาก 8% ลดเหลือ 2% ต่อที่สองได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลตามขนาดแบตเตอรี่ รถยนต์ 7 หมื่นบาท ถึง 1.5 แสนบาทต่อคัน รถจักรยานยนต์ 1.8 หมื่นบาทต่อคัน
ต่อสุดท้ายจะได้รับการลดอากรขาเข้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งคัน หากมีราคาไม่เกินคันละ 2 ล้านบาท ได้ลดอากรขาเข้าสูงสุด 40% ส่วนรถยนต์ที่มีราคาแนะนำ 2-7 ล้านบาท จะได้รับส่วนลดสูงสุด 20% เท่ากับว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาขาย คันหนึ่งจะลดลงไม่ต่ำกว่าหลักแสนบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีความชัดเจนที่ค่ายรถจะเข้ามาเซ็นสัญญาเข้าร่วมมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว 2 ค่ายจากประเทศจีน คือ เอ็มจี และเกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยจะเซ็นสัญญากันในสัปดาห์หน้าแทนสัปดาห์นี้ ส่วนค่ายฮอนด้า และค่ายอื่นยังอยู่ระหว่างพิจารณา และจะทยอยเข้าร่วมกันภายหลัง
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์