ปรับขึ้น เก็งกำไร JMART HANA KBANK (17 มี.ค. 65)

ซึ่งมีโอกาสที่สามารถทะลุผ่านไปได้สูง จากโมเมนตัมเชิงบวก 1. เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาด 2. การเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้าที่ดี และ 3. จีนส่งสัญญาณสนับสนุนบริษัทจีนที่จดทะเบียนในต่างประเทศ ส่งผลให้ระยะสั้นตลาดหุ้นเข้าสู่ภาวะ Risk-on ไฮไลท์วันนี้ คือ การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.75% และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

      +KTZ Portfolio: Mid-Small Cap แนะนำ M (แนะนำ ขำย BGC ซื้อ DOD และ XO) / Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC BEC TCAP CENTEL BH ADVANC AOT DTAC COM7 MINT KTB PLANB BLA

      +กลุ่มอิงการเปิดประเทศของไทย: ธนาคาร KBANK SCB BBL พาณิชย์ CPALL CPN CRC OSP ท่องเที่ยว AOT CENTEL ERW BA

      -XD Effect: สัปดาห์นี้ มีผลต่อดัชนีฯ -1.58 จุด นำโดย EGCO SIRI VNG CCET RATCH SANKO INOX LANNA CK

 

ปัจจัยบวก

       China: ตลาดหุ้น HSKI วานนี้พุ่งแรง +9.08% ดีสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2008 นำโดยหุ้นกลุ่มเทคฯ Tencent +23% Alibaba +27% หลังมีข่าวว่าที่ประชุมความมั่นคงของจีนที่มีรองนายกฯ หลิว เหอ เป็นประธาน ส่งสัญญาณรักษาเสถียรภาพทางการเงินและสนับสนุนบริษัทจีนที่จดทะเบียนในต่างประเทศ

       Russia-Ukraine: ประธานาธิบดียูเครน ส่งสัญญาณมีความคืบหน้าและมีความเป็นไปได้ที่จะมีการบรรลุผลมากยิ่งขึ้น ในการเจรจาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ยังต้องใช้เวลาในการตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของยูเครน ทำให้ความหวังของสงครามใกล้สิ้นสุดลงมีสูงขึ้น

 

 

       FOMC Meeting: เฟดประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นปี 2018 จำนวน 0.25% โดยคาดว่าปีนี้จะปรับขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 7 ครั้ง และปี 2023E ปรับขึ้นอีก 3 ครั้ง รวมถึงส่งสัญญาณทำ QT ในการประชุมครั้งหน้า เดือน พ.ค. (ตามที่ตลาดคาด) ทำให้ระยะสั้นนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟด

 

ปัจจัยลบ

       Global Fund Manager Survey ในวันที่ 4-10 มี.ค. ของ Bank of America: พบว่า มีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อเศรษฐกิจ (Stagflation) ผลกำไรบจ. (ลดลง) และนำไปสู่การปรับพอร์ตลงทุน โดยเน้นการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย (Cash) หรือสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากสงคราม (Commodities) แทนที่ Equities (ดูรายงานพิเศษ วันนี้)

 

ประเด็นสำคัญ

         - XD Effect วันนี้ มีผลต่อดัชนีฯ -0.44 จุด นำโดย CCET CAZ PRIN TAKUNI WINMED RATCH SANKO

         - Opportunity Day วันนี้ ALT WPH MENA SA BAFS SAT XO

         - ผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps. เป็น 0.75% ส่วนผลประชุมธนาคารกลางของ Taiwan, Indonesia คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.125% และ 3.5% ส่วนของบราซิล คาดปรับขึ้น 100 bps.

         - EU รายงานเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ครั้งสุดท้าย คาดเติบโต 5.8% YoY, 0.9% MoM

         - USA รายงานยอดขายบ้านใหม่และ MPI เดือน ก.พ. คาดดีขึ้น +2% MoM และ +0.8% MoM ตามลำดับ

 

 

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวกแรง: ดัชนีฯ ยืนในแดนบวกตลอดการซื้อขาย กรอบ 1,653.87-1,668.95 จุด ตามการปรับสูงขึ้นของตลาดหุ้นฮ่องกง ก่อนปิดตลาดที่ 1,667.92 จุด +23.56 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.82 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +6.3% เงินทุนและหลักทรัพย์ +2.44% ธนาคาร +2.18% บริการรับเหมาก่อสร้าง +2.05% หุ้นบวก >4% KCE HANA COM7 THG DELTA TVT SVOA BKD IT WORK FVC FORTH SVI DITTO CPANEL หุ้นลบ >4% EE JUTHA NEWS A5 PSG CHOW TRC

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดพุ่งขึ้นแรง: DJIA +1.55% S&P500 +2.24% NASDAQ +3.77% หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ และรมว. ต่างประเทศรัสเซีย เผยว่าการเจรจากับยูเครนใกล้บรรลุข้อตกลงบางส่วนในการเจรจาสันติภาพ นำบวกโดยกลุ่มเทคฯ กลุ่มการเงิน และกลุ่ม consumer discretionary ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกแรง CAC40 +3.68% DAX +3.76% FTSE +1.62% หลังจากการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้า ในขณะที่ทางการจีนส่งสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจ

- ราคาน้ำมันและทองคำดิ่งแรงต่อเนื่อง: WIT -USD1.40 ปิดที่ USD95.04/บาร์เรล Brent -USD1.89 ปิดที่ USD98.02/บาร์เรล จากความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน และรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์ก่อน สูงกว่าคาดการณ์ พุ่งขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล (คาดเพิ่ม 2 แสนบาร์เรล) ส่วนราคาทองคำร่วงต่อเป็นวันที่สี่ -USD20.50 ปิดที่ USD1,909.20/ออนซ์ หลังจากนักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย

 

ประเด็นสำคัญ

+/- FOMC Meeting: เฟดมีมติ 8:1 ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 25 bps. เป็น 0.25-0.50% ตามที่ตลาดคาด พร้อมระบุว่าจะพิจารณาการลดขนาดงบดุลของเฟดในการประชุมครั้งหน้า (เดือน พ.ค.) ขณะที่ Dot Plot ชี้ว่าคณะกรรมการ 12 จาก 18 คน คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปี และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 1.75-2.00% ในปลายปี 2022 ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปี 2023 แต่จะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 (Dot Plot เผยค่าเฉลี่ยดอกเบี้ยปี 2022-24E อยู่ที่ 1.9%, 2.8%, 2.8% (จากเดิม 0.9%, 1.6%, 2.1%) ขณะที่ Longer Term อยู่ที่ 2.4% (จากเดิม 2.5%) ส่วนประมาณการเติบโตเศรษฐกิจปี 2022E ปรับลดลงเหลือ 2.8% (เดิม 4%) แต่คงปี 2023-24E ที่ 2.2% และ 2% ส่วนเงินเฟ้อ PCE Inflation ปี 2022-24E ปรับเพิ่มเป็น 4.3%, 2.7%, 2.3% (เดิม 2.6%, 2.3%, 2.1%) และ Core PCE Inflation ปี 2022-24E เป็น 4.1%, 2.6%, 2.3% (เดิม 2.7%, 2.3%, 2.1%) ตามลำดับ

+ Russia: นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียและยูเครนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงบางส่วนในการเจรจาสันติภาพ หลังจากที่ยูเครนยอมตกลงที่จะหารือเกี่ยวกับสถานะประเทศเป็นกลาง ขณะเดียวกันด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวอย่างชัดเจนว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)

+ Ukraine: ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก มีมติด้วยคะแนนเสียง 13-2 ให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครนโดยทันที นอกจากนี้ ศาลยังระบุว่ารัสเซียจะต้องสั่งให้กองกำลังอื่น ๆ ภายใต้การนำของรัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารเช่นกัน ทั้งนี้ คำตัดสินของ ICJ มีผลผูกพันทางกฎหมายที่ประเทศต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตาม

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: KBANK BLA OSP

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: JMART HANA KBANK

Derivatives: แนะเปิด Long เก็งกำไรหลัง 10:30 น. เก็งกำไรสั้น ๆ ภายในสัปดาห์ (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)