“ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่” ย้ำปี 65 เดินหน้าธุรกิจใหม่ตอบรับพลังงานในอนาคต
“ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่” เดินหน้าธุรกิจปี 2565 เต็มกำลัง ชูแนวคิด “Transformation for Sustainable Growth-เปลี่ยนผ่านสู่การเติบโตที่ยั่งยืน” มุ่งเป็นทุกคำตอบด้านธุรกิจพลังงานในอนาคต พร้อมโชว์ผลประกอบการปี 64 แข็งแกร่ง สร้างผลกำไรต่อเนื่องแม้เจอความท้าทายรอบด้าน
นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2564 ที่ผ่านมายังคงสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยบรรลุเป้าหมายการขยายจุดกระจายสินค้าเพื่อรายได้ที่เติบโตในระยะยาว เริ่มดำเนินการส่งออกก๊าซแอลพีจีสู่ตลาดเวียดนามในรูปแบบของธุรกิจเทรดดิ้งในปริมาณกว่า 18,500 ตัน สามารถขยายธุรกิจใหม่ๆ เช่น ธุรกิจซ่อมถัง รวมทั้งก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างเต็มตัว โดยเซ็นสัญญากับบริษัทคู่ค้าเพื่อดำเนินการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปด้วยกำลังการผลิตรวม 6 เมกะวัตต์แล้ว
ตลอดจนการเริ่มใช้งานคลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกง เฟส 3 เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองก๊าซแอลพีจีในคลังให้เป็น 2% ของปริมาณการค้าประจำปี ตามนโยบายของกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อเสริมความมั่นคงระบบพลังงานไทย ควบคู่กับการเสริมศักยภาพของซัพพลายเชนให้ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
สำหรับปี 2565 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโตที่ยั่งยืน หรือ Transformation for Sustainable Growth เพื่อพัฒนาแนวการดำเนินธุรกิจและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและรับมือกับความท้าทายต่างๆ อย่างทันท่วงที และต่อเนื่อง ภายใต้หลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการดูแล คู่ค้า พันธมิตร ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ให้พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงยั่งยืน
โดยอาศัย 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.ยกระดับซัพพลายเชนสู่มิติใหม่ด้านพลังงาน (Supply chain enhancement) มุ่งสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจก๊าซแอลพีจีรักษาความเป็นผู้นำในตลาด นำนวัตกรรมมาพัฒนาระบบการดำเนินงาน และขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางและครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น ทั้งในกลุ่ม B2B และ B2C ดำเนินธุรกิจโรงซ่อมถังอย่างเต็มรูปแบบ และเตรียมขยายสู่ธุรกิจการผลิตถังในอนาคต รวมทั้งการเปิดตัวแพล็ตฟอร์ม CRM เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ รวมทั้งการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินการด้านต่างๆ เช่น Call Center แบบ one stop services โดยใช้ เทคโนโลยี IOT หรือ internet of things เข้ามาใช้งาน เป็นต้น
2.ขยาย Ecosystem บุกเบิกบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครบวงจร (Customer Ecosystem Expansion) มุ่งสู่การเป็น Service & Energy Solution Provider นำประสบการณ์กว่า 42 ปีในธุรกิจพลังงานมาต่อยอดศักยภาพในการให้บริการและคำปรึกษาแก่ลูกค้า พร้อมแสวงหานำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ตามความต้องการ นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายช่วยประหยัดต้นทุน นำเสนอพลังงานทางเลือกโซลูชั่นอื่นๆ เหมาะสมกับธุรกิจ และสำหรับกลุ่มพาณิชยกรรม เช่นโรงแรม ร้านอาหาร จะร่วมเป็นพันธมิตรกับ Food Platform ต่างๆ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในแต่ละแพลตฟอร์ม
3.พัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อให้เป็นทุกคำตอบของพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน (Green & Sustainable Energy solutions) มุ่งเน้นสร้างการพัฒนาธุรกิจให้เกิดความยั่งยืนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว ขยายสัดส่วนของธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าการเซ็นสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากโซลาร์รูฟท็อปและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 20 เมกะวัตต์ ในปี 2565 ศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและบริหารองค์กร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยอดขายก๊าซแอลพีจีปีที่ผ่านมารวมกว่า 700,000 ตัน อัตราการเติบโตในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 20% ขณะที่กลุ่มลูกค้าก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปี 2563 ส่งผลให้กำไรถึง 88 ล้านบาท จากนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายและการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และบริหารการเงินและการลงทุนอย่างรอบคอบ
โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายก๊าซ LPG ซึ่งเป็นธุรกิจหลักราว 98% และรายได้อื่นๆ ประมาณ 2% และสำหรับในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถยอดขายรวมได้ 765,000 ตัน โดยคาดว่าจะมียอดส่งออกไปยังต่างประเทศ 25,000 ตัน สามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5%