บัวหลวงเวนเจอร์ส ลุยลงทุนสตาร์ทอัพ เตรียมขอ 'แบงก์กรุงเทพ' ใส่เงินเพิ่ม
บัวหลวงเวนเจอร์ส บริษัทในเครือธนาคารกรุงเทพ เร่งเดินหน้าลงทุนสตาร์ทอัพ ชี้ปีนี้น่าจะใช้งบลงทุนหมดเกลี้ยง 2พันล้านบาท จากปัจจุบันที่ใช้เงินไปแล้ว 1.4 พันล้านบาท เตรียมชงแบงก์กรุงเทพใส่เงินเพิ่ม หวังต่อยอดลงทุนต่อเนื่อง
นายกฤษณ์ พันธ์รัตนมาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัวหลวงเวนเจอร์ส จำกัด บริษัทในเครือธนาคารกรุงเทพ(BBL) กล่าวว่า สำหรับการเลือกเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพนั้น หลักๆต้องดูว่าสตาร์ทอัพเหล่านั้น ที่ผ่านมาธุรกิจเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่เจอกับวิกฤติโควิด-19 ธุรกิจมีศักยภาพมีความมั่นคงอยู่รอดแค่ไหน รวมถึงธุรกิจสามารถเปลี่ยนจากดีมานด์มาสู่การสร้างเวลูเอชั่น สร้างมูลค่าได้มากน้อยแค่ไหนในระยะข้างหน้า รวมถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจในการขยายธุรกิจ ที่ต้องมั่นคงแข็งแรง ที่สามารถต่อยอดไปสู่รีจินอลได้ในอนาคต
สำหรับเป้าหมายการเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพ บัวหลวงเวนเจอร์สตั้งเป้าคืนทุนอย่างน้อยใน 5 ปี ไปสู่ระดับที่พอใจจนสามารถถอนเงินลงทุน หรือเพิ่มการลงทุนได้
“วันนี้การเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพ เราระมัดระวังในการเลือกลงทุนมากขึ้น เพราะวิธีการเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพวันนี้ไม่ได้เหมือนเมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว ที่บอกว่าหากไม่เร่งเข้าไปลงทุนแล้วจะตกรถ แต่วันนี้เรามีการคิดมากขึ้น ตั้งแต่เกิดโควิด ว่าสตาร์ทอัพเหล่านี้อยู่รอดได้หรือไม่ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และรอดแล้วยังมีศักยภาพไปต่อได้หรือไม่ รวมถึงการสร้างเวลูเอชั่นได้หรือไม่ และแผนธุรกิจในระยะข้างหน้า เช่น หากบอกว่าจะไปรีจินอลแต่ในประเทศยังทำได้ไม่ดี ยังไม่แกร่งพออันนี้ก็ไม่ใช่ ดังนั้นต้องดูว่าเขาแคปเจอร์มาร์เก็ตได้แค่ไหน รวมถึงธุรกิจต้องเริ่มสร้างรายได้ ที่ไม่นานเกินไป ผลขาดทุนต้องลดลงเรื่อยๆ หากเทียบกับแรกๆที่เพิ่งก่อตั้ง”
ทั้งนี้ ในด้านธุรกิจที่สนใจเข้าไปลงทุน เช่น ที่เกี่ยวกับฟินเทคต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจของธนาคารกรุงเทพ(BBL) เข้ามาช่วยรายได้ หรือทำให้การเข้าถึงลูกค้าดีขึ้น มาช่วยต่อยอดให้กับธุรกิจแบงก์รูปแบบเดิมๆ
เช่นการทำให้แบงก์สามารถเข้าถึงในการปล่อยกู้ที่หลากหลาย เข้าถางคนจำนวนมาก และสามารถช่วยลดต้นทุน มาช่วยซัพพอร์ตธุรกิจธนาคารได้ในระยะข้างหน้า รวมถึงที่เกี่ยวกับ AI ซอฟต์แวร์ รวมถึง Cloud
รวมถึงเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆเช่น บล็อกเชน เว็บทรี เมตาเวิร์สต่างๆ ที่จะเข้ามาช่วยเสริมในธุรกิจได้
สำหรับเม็ดเงินการเข้าไปลงทุน ปัจจุบันบัวหลวงเวนเจอร์สมีทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท ที่สามารถนำไปใช้ลงทุนได้ โดยปัจจัยลงทุนไปแล้วราว 1.4 พันล้านบาท
โดยคาดว่าวงเงินลงทุนน่าจะครบ 2,000 ล้านบาท หรือมีเม็ดเงินอีกอีก 600 ล้านบาท ที่พร้อมลงทุนในปีนี้
อีกทั้งปัจจุบันมีแผนการหารือกับธนาคารเพิ่มเติม เพื่อขอเพิ่มทุน ในการเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้นด้วยในปีหน้า
สตาร์อัพไทย และต่างประทศ และมีความน่าสนใจ ขยายได้อยู๋แล้ว เพียงแต่วันเพื่อเข้าใจสภาพตลาดมากขึ้น ตะวันออกเฉียงใต้ไม่ถึงกับยูนิค 100%
“วันนี้เราดูเรื่องการเข้าไปลงทุนมากขึ้น เพราะตั้งแต่โควิดมาทำให้หลายธุรกิจ สตาร์ทอัพเดินได้ยากขึ้น และปีนี้ก็มาเจอสงครามรัสเซียยูเครน ทำให้หลายค่ายต้องรีวิวจีดีพีใหม่ รวมถึงการลงทุน ดังนั้นหลายธุรกิจก็นิ่ง และไม่เร่งเหมือนปีก่อนๆ”
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์