โรงแรมภาคเหนือทวงเงิน “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส3
ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมภาคเหนือ ครวญประสบปัญหาไม่ได้เงินสบทบร้อยละ 40 คืนจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 เบื้องต้นมีมูลค่ารวมหลักสิบล้านบาท จนกระทบการหมุนเวียนเงินในการทำธุรกิจ วอนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเคลียร์ข้อกังขา-เงินตกค้างให้หมด
นางละเอียด บุ้งศรีทอง อดีตนายกสมาคมโรงแรมไทย(ภาคเหนือ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีผู้ประกอบการโรงแรมในภาคเหนือ ได้สะท้อนปัญหาเกี่ยวกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 มายังสมาคมฯ เพื่อให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับเงินสบทบร้อยละ 40 คืนจากภาครัฐ จึงได้มีการสะท้อนปัญหาไปยังการท่องเ้ที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้พบว่าผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศต่างประสบปัญหาเช่นเดียวกันหมด
ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ประกอบการโรงแรมเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จำนวน 224 แห่ง และร้านอาหาร 96 แห่ง ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าได้รับผลกระทบกันมากน้อยขนาดไหน ซึ่งเชื่อว่า ในเฟส 3 มีผู้ประกอบการโรงแรมหลายแห่ง ที่ยังไม่ได้รับเงินสบทบคืน น่าจะมีตั้งแต่หลักพันบาทจนถึงหลักแสนบาทต่อแห่ง ในระหว่างนี้ คงจะมีการสำรวจจากผู้ประกอบการกันอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการตกค้าง หรือหากว่าบางแห่งไม่ได้รับเงิน ภาครัฐก็ต้องมีการชี้แจงว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพื่อให้ธุรกิจภาพรวมเดินต่อไปได้
“ขณะนี้โรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่กลับมาเปิดบริการเพียง 30,000 ห้อง จากที่มีทั้งหมด 60,000 ห้อง และอัตราเข้าพักอยู่ที่ร้อยละ 10-15 เท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าธุรกิจอยู่ในภาวะที่ไม่ดีติดต่อกันมาหลายปีแล้ว แต่ที่ผ่านมา ก็ยอมรับว่าภาครัฐได้ให้การช่วยเหลือหลายอย่าง แต่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ก็ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นปัญหาสะสม เพราะตอนนี้ก็อยู่ในช่วงของโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ซึ่งก็ถือว่าไม่ค่อยคักคัก มีการใช้สิทธิ์ทั้งประเทศไป 1.3ล้านสิทธิ์จากทั้งหมด 2 ล้านสิทธิ์” นางละเอียด กล่าว
นายวีรวิทย์ แสงจักร ประธานกลุ่มผู้ประกอบการที่พักขนาดเล็ก(ล่ามช้าง)จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ยอมรับว่ามีโรงแรมหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่เข้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันแล้วกำลังประสบปัญหาไม่ได้รับเงินสบทบร้อยละ 40 คืนจากภาครัฐ ซึ่งมูลค่ารวมกันน่าจะหลายล้านบาท ทำให้โรงแรมได้รับผลกระทบแทนที่จะมีรายได้เข้ามาหมุนเวียนในภาวะที่ธุรกิจซบเซา กลับต้องมาเสียเวลาในการติดตามเงินว่าจะเข้ามาในระบบได้เมื่อไหร่ ซึ่งในส่วนของเฟส 4 ก็เริ่มมีโรงแรมหลายแห่งอาจจะไม่อยากเข้าร่วมโครงการ โดยขณะนี้เชื่อว่าไม่ได้เกิดขึ้นที่เชียงใหม่จังหวัดเดียว แต่น่าจะเจอปัญหาเหมือนกันทั่วประเทศ เป็นเรื่องที่ภาครัฐต้องแก้ไขโดยด่วน
นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สำหรับจังหวัดเชียงรายมีโรงแรม 600 แห่ง และเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน 300 แห่ง ซึ่งในเฟส 1 และเฟส 2 ไม่มีปัญหาอะไร ได้เงินสบทบเข้ามาตามเวลาที่กำหนด แต่ในเฟส 3 กลับพบปัญหาเกิดขึ้น เท่าที่ีสอบถามมีมากกว่า 20 แห่งที่ไม่ได้รับเงินสบทบร้อยละ 40 คืนจากภาครัฐ มูลค่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งได้มีการประสานไปยังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ได้รับคำตอบว่าตรวจสอบข้อมูล ซึ่งเมื่อเกิดความล่าช้าแบบนี้ทำให้ได้รับความเดือดร้อนกันเป็นอย่างมาก เพราะธุรกิจไม่ได้คึกคัก และมีรายจ่ายทุกวัน ทุกแห่งต่างต้องการรายได้มาหมุนเวียนในธุรกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนหนึ่งของความล่าช้าในการโอนเงินค่าสบทบในโครงการเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 คืนให้กับผู้ประกอบการโรงแรมล่าช้านั้น เนื่องจากมีบางโรงแรมที่อาจจะต้องถูกตรวจสอบความโปร่งใส เช่น กรณีที่มีการพักเกิน 5 วัน หรือกรณีที่ไม่สามารถสแกนใบหน้าของคนเข้าพักได้ รวมไปถึงมีบางโรงแรมที่มีไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขที่ภาครัฐกำหนดไว้