ยังขาดปัจจัยใหม่หนุน (วันที่ 28 มีนาคม 2565)
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวกในภาคเช้า แต่ภาคบ่ายมีแรงขายออกมา ทำให้ดัชนีติดลบ 3-4 จุด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ในการขับเคลื่อนดัชนี มูลค่าการซื้อขายลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า
ดัชนีขึ้นทดสอบบริเวณ 1,680 หลายครั้ง แต่ยังไม่ผ่าน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,676.80 จุด -4.09 จุด -0.24% มูลค่าการซื้อขาย 62,111 ลบ. ต่างชาติ -864.12 ลบ. TFEX -7,277 สัญญา ตราสารหนี้ -1,305.68 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 153.30 จุด หรือ +0.44% และดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 113.90 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 10.5% ในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำมันอีกครั้งหลังมีรายงานว่า โรงงานน้ำมันของซาอุดีอาระเบียถูกโจมตี
+ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 1.16 ล้านล้านหยวน โดยได้ปัจจัยบวกจากผลกำไรที่แข็งแกร่งของกลุ่มผู้ผลิตพลังงานและวัตถุดิบ อันเนื่องมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
+ นายวลาดิเมียร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซียเปิดเผยว่า คณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนจะจัดการเจรจาสันติภาพรอบใหม่ในวันที่ 29-30 มี.ค.นี้ โดยจะเป็นการเจรจาแบบพบหน้ากัน
+ กระทรวงการท่องเที่ยวฯมีนโยบายผลักดันเพื่อ ปลดล็อกเงื่อนไขการเข้าประเทศทั้งหมด ให้เหมือนกับก่อนวิกฤติโควิด-19 (ก่อนปี 2563) ด้วยการนำเสนอ ศบค. เพื่อยกเลิกการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass รวมถึงการเข้าประเทศในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง Test & Go และ Sandbox ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 65 เป็นต้นไป
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 24,635 ราย มีผู้เสียชีวิต 81 ราย รักษาหาย 25,753
ปัจจัยลบ
- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 59.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี จากระดับ 62.8 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 59.7 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอาจจะทรงตัวที่ระดับ 62.8 ในเดือนมี.ค.
- S&P Global ระบุว่า เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังถูกกระทบ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทานรอบใหม่ หลังจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนทำให้ต้นทุนพลังงานพุ่งขึ้น
- ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐและกลุ่มนาโตจะตอบโต้ "อย่างสาสม" หากรัสเซียใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพในการโจมตียูเครน
- UNCTAD ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2565 ลงมาอยู่ที่ 2.6% จากเดิมที่ 3.6% เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย และการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของประเทศต่าง ๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงเป็นปัจจัยกดดันต้นทุนพลังงานของบริษัทจดทะเบียน ประกอบกับสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อยังกดดันตลาด ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,670-1,685 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
• กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
• จ่อปลดล็อกเข้าประเทศทุกเงื่อนไข 1 มิ.ย.นี้ เลิก ThailandPass/Test&Go : AOT ERW CENTEL MINT AWC
• นโยบายส่งเสริมรถ EV : EA NEX GPSC BCPG
หุ้นรายงานพิเศษ
SISB (Bloomberg Consensus 11.50)
•ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตในอีก 5 ปี นักเรียนเติบโตสู่ 4,150 คน จากในปัจจุบันมีนักเรียน 2,434 คน หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 11.3% ต่อปี โดยได้แรงหนุนจากการเปิดสาขาธนบุรีเฟส 2 ปี 2022 สาขานนทบุรีปี 2023 และสาขาระยองในปี 2024 โดยคาดว่าจะสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 45-50% และ 20-25% ตามลำดับ
•เตรียมขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดและชานเมืองเพิ่มเติมเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดจากโรงเรียนเอกชนและโรงเรียน English Program โดยอาจปรับลดขนาดของโรงเรียนลง แต่ยังใช้หลักสูตรจากสิงคโปร์ โดยมองการลงทุน 5 จังหวัดหลัก เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี(พัทยา) และ ภูเก็ต
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการตั้งแต่ 1Q22 เป็นต้นไปเนื่องจากไม่มีการล็อกดาวน์และนักเรียนเริ่มทยอยกลับเข้ามาเรียนเพิ่มขึ้นล่าสุดนักเรียนกลับมาเรียนกว่า 2.6 พันคนแล้วจาก 4Q21 อยู่ที่ระดับ 2.4 พันคนและไม่มีการให้ส่วนลดค่าเล่าเรียน นอกจากนี้ในปี 22 โรงเรียน SISB สาขาธนบุรีเฟส 2 แล้วเสร็จช่วยหนุนให้จำนวนนักเรียนกลับมาเติบโต เราจึงแนะนำ ซื้อสะสม
หุ้นมีข่าว
(+) AH (Bloomberg Consensus 28.00 บาท) ประกาศชัดอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวแข็งแกร่ง อีวีโอกาสโตสูงหลังรัฐเดินหน้ากระตุ้น แย้มค่ายรถยนต์ปีนี้ตื่นตัวงานมอเตอร์โชว์เจรจาลูกค้าต่อเนื่อง ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถฟื้น รถยนต์ยี่ห้อ MG ขายดี มั่นใจรายได้โต 30% มาเลเซียฟื้นแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ASAP (Bloomberg Consensus 2.70 บาท) รับเต็มช่วงหยุดยาว "สงกรานต์" คนแห่จองรถเที่ยวไทยอื้อ เดินหน้าขายยูสคาร์ล็อตแรก 1 พันคัน เสริมพอร์ตรับทรัพย์ คาดชัดเจน Q1/2565 บอสใหญ่ "ทรงวิทย์" ลั่นปีนี้ผลงานทะยานต่อเนื่อง อานิสงส์ธุรกิจเช่า-รถมือสองฟื้นตัวเด่น แถมลุยแพลตฟอร์ม "ยูสคาร์" ตอบโจทย์โลกใหม่ หวังเชื่อม-ขยายอีโคซิสเต็มส์ให้กว้างขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TPIPL (Bloomberg Consensus 2.40 บาท) ชี้ดีมานด์ปูนซีเมนต์ปี 2565 ขยายตัว 5-10% รับเปิดเมืองไซต์งานเดินหน้าก่อสร้างได้ ขณะที่ภาครัฐ-เอกชน เดินหน้าลงทุนต่อ คาดราคาขายอาจปรับเพิ่มเป็น 500 บาทต่อตัน จากปัจจุบันที่ราว 300 บาทต่อตัน หนุนรายได้-กำไรเพิ่ม ด้านต้นทุนพลังงานลดฮวบจากการใช้ RDF ทดแทนถ่านหิน พร้อมวางเป้า EBITDA เพิ่มขึ้นแตะ 2 พันล้านบาท และเพิ่มเป็น 3 พันล้านบาท ในปีถัดไป (ที่มา ทันหุ้น)
(+) DEMCO (Bloomberg Consensus 4.10 บาท) ปักธงปี 2565 รายได้โต 10-15% จากปีก่อน อานิสงส์งานรอบุ๊กเพียบ แถมเดินหน้าสอยโครงการใหม่เติม Backlog เพิ่มจากเดิมราว 4,026 ล้านบาท กินยาวปี 2566 เล็งทุ่มงบ 300-500 ล้านบาท ลุยขยายฐานโซลาร์รูฟท็อป-เสริมแกร่งธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)