“สมาร์ทปาร์ค” ตอบโจทย์ “เน็ตซีโร่” กนอ. โรดโชว์ดึงลงทุน “เอเชีย-ยุโรป”
โครงการลงทุนสำคัญในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กำลังเข้าสู่ระยะก่อสร้าง รวมถึงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค จ.ระยอง เพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย New S-Curve ทำให้เริ่มเห็นการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างกับบริษัท เทิดไท แอนด์ โค จำกัด และลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้าง กับกิจการค้าร่วมบริษัท โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จำกัด, บริษัท ดี.เอ็กซ์ สตูดิโอ จำกัด, บริษัท พี แอนด์ ซี แมเนจเมนท์ จำกัด และบริษัท วิสิทธิ์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2564 เพื่อก่อสร้างก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีกรอบเวลา 36 เดือน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง มีระยะทางห่างจากท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด 7 กิโลเมตร ห่างจากสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา 17 กิโลเมตร ห่างจากท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ 29 กิโลเมตร ท่าเรือแหลมฉบัง 53 กิโลเมตร และสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ 150 กิโลเมตร พื้นที่รวม 1,383.76 ไร่
โครงการฯ มีมูลค่าการลงทุน 2,370 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และสังคม ตั้งแต่ระยะก่อสร้าง โดยมีการจ้างงานประมาณ 200 คน และเมื่อเปิดดำเนินการจะรองรับการจ้างงานประมาณ 7,459 คน ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในพื้นที่กว่า 1,300 ล้านบาทต่อปี
“ทั้งนี้ตามแผนการดำเนินงาน หลังจากลงนามในสัญญาจ้างผู้รับเหมาแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี และสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2567 ซึ่งปัจจุบันความก้าวหน้าของงานก่อสร้างโครงการสะสมเท่ากับ 8.06%”
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค จะรองรับการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) ที่มีนวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล กลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ เป็นต้น
โดยจะแบ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินออกเป็น 4 โซน ได้แก่ พื้นที่อุตสาหกรรม จำนวน 621.55 ไร่ พื้นที่พาณิชยกรรม จำนวน 150.54 ไร่ พื้นที่สาธารณูปโภค เช่น พื้นที่จอดรถส่วนกลาง ระบบผลิตน้ำประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย สถานีไฟฟ้าย่อย และถนน จำนวน 373.35 ไร่ และพื้นที่สีเขียวและแนวกันชน จำนวน 238.32 ไร่
โดยมีแนวคิดพัฒนาให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมต้นแบบอัจฉริยะที่ทันสมัย 9 ด้าน อาทิ ด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ระบบการสื่อสาร ระบบการขนส่ง ระบบพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค จะเป็นต้นแบบของนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะเชิงนิเวศ ที่มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากับศูนย์ โดยใช้นวัตกรรมสมัยใหม่ในการดำเนินการทั้งหมด ตั้งแต่ระบบสาธารณูปโภค ที่นำสายไฟลงใต้ดิน มีการจ่ายไฟฟ้าด้วย Smart grid รวมทั้งให้โรงงานติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กว่า 80% ของพื้นที่ นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ใช้ระบบขนส่งมวลชนไฟฟ้าในพื้นที่
ทั้งนี้ กนอ.กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีที่เหมาะสมซึ่งจะนำมาใช้ภายในนิคมสมาร์ท ปาร์ค โดยการศึกษาร่วมกับญี่ปุ่นในการจัดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน จึงคาดว่าภายใน 1-2 เดือนข้างหน้าจะสามารถกำหนดราคาเช่าขายในพื้นที่ได้
นอกจากนี้ กนอ.ได้เดินหน้าพูดคุยกับนักลงทุนที่สนใจแล้วบางส่วน และจะมีการจัดโรดโชว์ในต่างประเทศ ตามลำดับที่เปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน และประเทศในยุโรปที่สนใจย้ายฐานการผลิต ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยาและวัคซีน ยานยนต์แห่งอนาคต โลจิสติกส์ และระบบออโตเมชั่น
“นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค จะรวมอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงไว้ในที่เดียวกัน และจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมต้นแบบที่มีระบบสาธารณูปโภคเพียบพร้อม รวมทั้งอาคารต่างๆ ต้องมีมาตรฐานระดับสากล ก่อให้เกิดการหมุนเวียนเงินในท้องถิ่น ที่สำคัญต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนควบคู่กันไปด้วย ซึ่งหลังจากนี้ กนอ.จะเร่งดำเนินการโปรโมทการขายพื้นที่นิคมสมาร์ทปาร์คต่อไป”