‘ธาริษา’ อดีตผู้ว่าการ ธปท. ชี้ภาคการเงิน ต้องเดินคู่ 3 เสาหลัก หนุนเศรษฐกิจไทย

‘ธาริษา’ อดีตผู้ว่าการ ธปท. ชี้ภาคการเงิน ต้องเดินคู่ 3 เสาหลัก หนุนเศรษฐกิจไทย

ธาริษา’ อดีตผู้ว่าการ ธปท. ชี้ภาคนโยบายการเงิน ต้องเดินคู่ 3 เสาหลักของประเทศ ทั้ง สศช. - คลัง เพื่อหนุนเศรษฐกิจไทย

        นางธาริษา วัฒนเกส อดีตผู้ว่าการ ธปท.คนที่ 21 กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ ธปท.คือ การดูแลนโยบายการเงินและเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจ แต่พันธกิจของเราคือ การพัฒนาความอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืน

      ฉะนั้น หัวข้อที่เกี่ยวข้องไม่ใช่แค่นโยบายการเงินกับเสถียรภาพนโยบายการเงินเท่านั้น

    “ถ้ามองย้อนไปหลังเกิดวิกฤติโลก ประเทศต่างๆ ใช้นโยบายค่อนข้างน้อย แต่อิงนโยบายการเงินเป็นส่วนใหญ่ มีการปั๊มเงินเข้าระบบ ก็เป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น แต่ผลพวงความเสียหายได้โยงมาถึงทุกวันนี้ ฉะนั้น คำว่า ขว้างงูไม่พ้นคอ จึงเป็นแบบนี้”
 

       อย่างไรก็ตามมองว่า ทุกเครื่องจักรของเศรษฐกิจต้องเดินควบคู่กัน ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของ ธปท.ผู้เดียว แต่เรามีหน้าที่ในฐานะเป็นเสาหลักของประเทศ ซึ่งประสานงานกับอีก 3 หน่วยงานเศรษฐกิจได้คือ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ

เสนอมองก้าวข้าม “โควิด”

      ทั้งนี้ ธปท.ควรพิจารณาว่าหลังโควิด-19 จะมีอะไรเปลี่ยนหรือไม่ และเปลี่ยนยั่งยืนแค่ไหน ซึ่งมองว่าการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองในโลกจะเกิดขึ้น ซึ่งจะมีผลพวงกับภาคเศรษฐกิจ และภาคการเงิน ระบบการชำระเงินจะเป็นอย่างไร ฉะนั้น โจทย์มีเยอะมาก จำเป็นที่ ธปท.ต้องเข้าไปมีบทบาท แม้กระทั่งเรื่องที่เราไม่มีหน้าที่โดยตรง แต่จำเป็นต้องมีส่วนสนับสนุน

       นอกจากนี้ ยังขอย้ำเรื่องบริหารความเสี่ยง ที่เป็นเรื่องสำคัญ ต้องคิดเผื่ออนาคตหากสถาบันการเงินมีปัญหา ดังนั้นยามแข็งแรง จะต้องทำอย่างไร ไม่ใช่ว่า กำไรออกมาเยอะ เอาไปแจกปันผลหมด ถึงเวลาจะต้องกันสำรองมากขึ้น เหล่านี้เป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญ และระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งในโลกที่พลิกผันเปลี่ยนแปลงเร็ว การระมัดระวังเรื่องความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ

      ทั้งนี้ ฝากถึงผู้ว่าการ ธปท.คนปัจจุบัน ต้องยึดความถูกต้องในการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่คำนึงถึงผลพวงที่จะเข้ามากระทบ

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์