ชาวสวนเร่งเก็บ ‘ลิ้นจี่’ หนีหนาวฉับพลัน
หนาวฉับพลันกระทบลิ้นจี่ ..อากาศหนาวฉับพลันชาวสวนลิ้นจี่ต้องเร่งเก็บผลผลิต ถ้าไม่รีบเก็บให้ทันจะส่งผลเสียหายกระทบกับลิ้นจี่ที่กำลังสุกและพร้อมส่งออกไปต่างประเทศ
ชาวสวนลิ้นจี่บ้านหินขาว ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว เร่งนำคนงานกว่า 100 คนเข้าเก็บลิ้นจี่ในสวนกว่า 500 ไร่ เนื่องจากช่วงนี้ลิ้นจี่กำลังได้เวลาเก็บตามฤดูกาลแต่เกิดปัญหาสภาวะอากาศหนาวฉับพลัน ทำให้ผลของลิ้นจี่เริ่มแตกเสียหาย ถ้าไม่รีบเก็บให้ทันจะส่งผลเสียหายกระทบกับลิ้นจี่ที่กำลังสุกและพร้อมส่งออกไปต่างประเทศ
… นายสุพล ลิมป์รัชดาวงศ์ (เฮียหลี) อายุ 72ปี อยู่บ้านเลขที่ 190/1 หมู่4 ซ.บ้านหินขาว ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สวนลิ้นจี่ ซึ่งตนเองปลูกไว้ในพื้นที่จำนวนกว่า 500 ไร่ ซึ่งในขณะนี้ถึงฤดูเก็บเกี่ยวพอดีแต่เกิดสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง อากาศหนาวฉับพลันต้องเร่งเพิ่มคนงานเพื่อเก็บให้ทันเวลา
เฮียหลี.. ยังกล่าวอีกว่าลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่ออกก่อนผลไม้ชนิดอื่น ทำให้ได้ราคาดี ในช่วงนี้ราคากิโลกรัมละ 90 บาท โดยเฉพาะจุดเด่นของลิ้นจี่ อ.สอยดาว มีรสชาติอร่อย เนื้อแห้ง รสชาติหวานไม่ฝาด เมล็ดเล็ก โดยถ้าเปรียบเทียบกับลำไยแล้วดีกว่ากันเยอะเป็นการลงทุนระยะสั้นเพียงแค่ 90 วันก็สามารถเก็บผลผลิตได้ สวนลำไยต้องใช้ระยะเวลาถึง 195 วัน ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้นมากแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยปีนี้คาดว่าจะเก็บผลผลิตได้ประมาณ 100 ตันหรือไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยคนส่วนใหญ่คิดว่าลิ้นจี่นั้นส่วนใหญ่จะมีทางแม่กลอง เดินทางอัมพวาแต่แท้จริงแล้วลิ้นจี่ที่อร่อยที่สุดอยู่ที่อำเภอสอยดาว นอกจากนี้ยังฝากถึงเกษตรกรด้วยว่าในช่วงนี้ต้องทำการเกษตรเผื่อไว้อีกหนึ่งทางเลือก ไม่ทำอย่างเดียวเพื่อป้องกันผลกระทบในเรื่องของราคา
หากท่านใดที่สนใจจะรับประทานลิ้นจี่ของอำเภอสอยดาวก็สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปเนื่องจากเป็นการออกต้นฤดูกาล หรือช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี