JDF เปิดเทรดวันแรก ราคาเหนือจอง 23.07% อยู่ที่ 3.20 บาท
JDF เปิดเทรดวันแรกราคาอยู่ที่ 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 23.07% จากราคาไอพีโอที่ 2.60 บาท เตรียมนำเงินระดมทุนขยายธุรกิจ
บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือJDF เข้าซื้อขายหุ้นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีราคาเปิดที่ 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 23.07% จากราคาไอพีโอ ที่ 2.60 บาท
ทั้งนี้ JDF ประกอบธุรกิจผลิตเครื่องปรุงรสอาหาร (Food Seasoning) ซอส ไส้ขนม อาหารอบแห้ง แบบครบวงจรตามความต้องการของลูกค้า (Made to Order) ซึ่งเครื่องปรุงรสอาหารดังกล่าวนำไปใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบส่วนผสมในการปรุงอาหารของลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรมอาหารและกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร
อีกทั้ง JDF มีการรับจ้างผลิตขนมขบเคี้ยวประเภทมะพร้าวอบกรอบความต้องการของลูกค้าแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) ให้แก่ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารในต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัททั้งผงเขย่าปรุงรส และไส้เบเกอรี ตรา ‘โอเค’ ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงปรุงรสและอาหารไทยกึ่งสำเร็จรูป ตรา ‘กินดี’ หรือ ‘Kin Dee’มะพร้าวอบกรอบ ตรา ‘Crispconut’ และตรา ‘Little Monkey’ และซุปกึ่งสำเร็จรูปไม่ใส่ผงชูรสทุกชนิดตรา ‘GOOD EATS’
JDF มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 450 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) 150 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 29-31 มี.ค.2565 ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 390 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,560 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 25.78 เท่า โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
สำหรับเงินที่ได้จากการขายไอพีโอ บริษัทจะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน, ใช้เพื่อวิจัยและพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตราการเติบโตสูง,เพื่อขยายตลาดไปในกลุ่มประเทศ CLMV ประเทศจีนตอนใต้ และประเทศอินเดีย
รวมถึงใช้เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตและจัดซื้อเครื่องจักรระบบเทคโนโลยีแบบกึ่งอัตโนมัติ สำหรับสายการผลิตใหม่,เพื่อจัดซื้อระบบการพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูล Electronic Data Interchange (EDI) เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตและยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
JDF มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน สภาพคล่อง แผนการลงทุน และการขยายธุรกิจในอนาคต สภาวะตลาด ความเหมาะสม และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ ครอบครัวหอสัจจกุล และ นางสาวรัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัท ถือหุ้นรวม 75%
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์