วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (7 เม.ย. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังประเทศสมาชิกของสำนักพลังงานสากล (IEA) ประกาศปล่อยน้ำมันดิบจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังประเทศสมาชิกของสำนักพลังงานสากล (IEA) ประกาศว่าจะปล่อยน้ำมันดิบจำนวน 120 ล้านบาร์เรล จากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) นับเป็นครั้งที่สองในปีนี้ที่ IEA ได้ปล่อยน้ำมันดิบจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ ซึ่งจะเพิ่มอุปทานทั่วโลกประมาณ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างน้อยในสองเดือนข้างหน้า ขณะที่ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความต้องการใช้น้ำมันที่ชะลอตัวในจีนเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้มีการล็อคดาวน์ในเมืองต่างๆ รวมไปถึงเซี่ยงไฮ้
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลัง ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 เม.ย. 65 เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 412 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลงราว 2.1 ล้านบาร์เรล
- ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่าธนาคารกลางสหรัฐกำลังวางแผนที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5% ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น แต่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดัน เนื่องจากการซื้อขายน้ำมันส่วนใหญ่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดว่าอินโดนีเซียจะนำเข้าน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย.เนื่องจาก การคลายข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 รวมไปถึงความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นจากการเดินทางระหว่างจังหวัดหลังช่วงรอมฎอน
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ในภูมิภาคที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากญี่ปุ่นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา