เอกชนเร่งรัฐยกเลิก Test&Go ฟื้นรายได้ท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ

เอกชนเร่งรัฐยกเลิก Test&Go ฟื้นรายได้ท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ

เอกชนชงรัฐ เร่งผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศ ยกเลิก Test&Go เร่งเครื่องฟื้นรายได้ภาคการท่องเที่ยวกลับมา หวังแก้ปัจจัยเสี่ยงด้านพลังงานและต้นทุนที่ดันเงินเฟ้อขึ้นมาสูงสุดในรอบสิบปี วานนี้ (8 เม.ย.) ศบค. เคาะตรวจแค่ ATK ที่สนามบิน มีผลตั้งแต่ 1 พ.ค. 65

ปัจจุบัน มีหลายประเทศทั่วโลก เริ่มผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศ รวมถึงบางรัฐในสหัฐอเมริกาที่เริ่มประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น เพื่อลดมาตรการป้องกันไวรัสลง สู่ระดับที่ต่ำกว่าสถานการณ์ "วิกฤติ" ให้การดำเนินชีวิตของประชาชนกลับเข้าสู่กิจวัตรปกติ ในเงื่อนไขที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและการกลายพันธุ์ของไวรัส

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 รวมทั้งการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศโดยปรับรูปแบบมาตรการ Test & Go ในวันที่ 1 มี.ค. 2565 ช่วยอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น  


ซึ่งจะช่วยดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเข้ามาประคองเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ไทยได้รับผลกระทบทั้งจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมา และแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ทำให้ในเดือน เม.ย. ที่ประชุม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2565 ลงอีกครั้ง อยู่ในกรอบโต 2.5-4.0% ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะโตได้ 2.5-4.5% โดยเงินเฟ้อปรับขึ้นเป็น 3.5-5.5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ในกรอบ 2-3%  ขณะที่การส่งออกยังคงไว้ที่ 3-5%

ทั้งนี้ หากเร่งปรับเงื่อนไขต่างๆ ให้สะดวกขึ้น รวมทั้งการผ่อนปรนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้กลับสู่ภาวะปกติไม่ว่าจะเป็น การประชุม สัมมนา การจัดนิทรรศการ และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย การท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็จะกลับมาเร็วขึ้นเท่านั้น 

"ประเมินรายจ่ายเฉลี่ยต่อหัวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยนั้นอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาทต่อหัว ซึ่งเท่ากับว่าไทยจะมีรายได้เข้าประเทศถึง 558,000 – 600,000 ล้านบาท โดยเฉพาะช่วง High Season ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางมาประเทศไทย"

ทั้งนี้ ตามที่ภาครัฐที่เตรียมจะปรับให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) ในวันที่ 1 ก.ค. 2565 จึงคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ จะขยายฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปช่วงครึ่งปีหลัง โดยตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยอยู่ที่ 5.58 - 6 ล้านคน 

ตัวเลขชัด นักท่องเที่ยวพุ่ง 65.97% หลังยกเลิก RT-PCR
ภายหลังการยกเลิกการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นมา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. ได้รายงานว่า ส่งผลให้มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 11,623 คน เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค. ที่มีจำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 7,003 คน หรือขยายตัว 65.97%

ขณะที่เที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศ มีจำนวนเฉลี่ยวันละ 141 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค. ที่เฉลี่ยวันละ 137 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 2.92% และคาดว่าจากนี้ไปจะมีผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ศบค. เคาะตรวจแค่ ATK 
ขณะที่ วานนี้ (8 เม.ย. 2565) คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ได้อนุมัติหลักการ ปรับมาตรการเนทางเข้าราชอาณาจักร ระยะ 2 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 ประกอบด้วย Test & Go ไม่ต้องตรวจ RT-PCR เมื่อมาถึงประเทศ เปลี่ยนเป็นการตรวจ ATK ที่ทราบผลได้ทันที 
ลดเวลากักตัว Quarantine อีกทั้งยังปรับลดวงเงินประกันภัย ลดเอกสาร Thailand Plus เอย่างไรก็ตามจะมีการประเมินอีกครั้งหลังสงกรานต์