แกว่งตัวกรอบแคบ (วันที่ 11 เมษายน 2565)
วันศุกร์ ที่ผ่านมาดัชนีทยอยฟื้นตัวในภาคบ่าย เป็นการรีบาวนด์ หลังจากที่ดัชนีร่วงแรงในวันก่อนหน้า จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มค้าปลีก และโรงพยาบาล ซึ่งได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ที่เห็นตัวเลขฟื้นตัวดี
ส่วนกลุ่มพลังงานมีแรงขาย ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,686.00 จุด +3.59 จุด +0.21% มูลค่าการซื้อขาย 70,885 ลบ.ต่างชาติ -207.58 ลบ. TFEX +3,960 สัญญา ตราสารหนี้ +2,720.29 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 137.55 จุด +0.40% ได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารที่ร่วงแรง แต่ดัชนี S&P500 ปิดลบหลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน นลท.ยังคงวิตกว่า FED จะดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.23 ดอลลาร์ +2.3% ปิดที่ 98.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันเพราะถูกกดดันจากประเทศต่าง ๆ ประกาศแผนระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์
+ สหรัฐรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 2.5%MoM ในเดือนก.พ. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนม.ค.
+ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศสั่งการให้ทูตพาณิชย์เดินหน้าขยายตลาดให้กับผลิตภัณฑ์จากกัญชงส่งออกไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพราะถือเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่
+ ททท. เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ไตรมาสแรกของปีนี้มีจำนวน 444,039 คน ขยายตัว 2,101%YoY และเพิ่มขึ้น 30%QoQ ปัจจัยสนับสนุนหลักจากการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศของไทย
+ อย. ขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ของโนวาแวกซ์ให้ใช้กรณีฉุกเฉินแล้ว
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 22,387 ราย ATK 15,187 ราย มีผู้เสียชีวิต 105 ราย รักษาหาย 27,680 ราย
ปัจจัยลบ
- ECB เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอน และเป็นสาเหตุที่ทำให้ ECB ระมัดระวังเรื่องการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ญี่ปุ่นขับไล่นักการทูตรัสเซียบางส่วนออกนอกประเทศ หลังหารือกับสหรัฐและประเทศในแถบยุโรปเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียยุติการทำสงครามในยูเครน
- S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศของรัสเซียลงสู่ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" เนื่องจากมีความเสี่ยงมากขึ้นที่รัสเซียจะไม่สามารถชำระหนี้ และไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตามพันธสัญญาที่ให้ไว้กับลูกหนี้ต่างชาติที่ถือครองตราสารหนี้ของรัสเซีย
- สนค. เปิดเผยว่าราคาสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างในประเทศปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า เห็นได้จากดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน มี.ค.65 อยู่ที่ 119.7 สูงขึ้น 8.6%YoY สูงสุดในรอบ 4 เดือน
- ต้นทุนการดำเนินงานของผู้ประกอบการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังกองทุนน้ำมันฯ ยกเลิกตรึงราคาขายปลีกดีเซล 30 บาทตั้งแต่ 1 พ.ค. พร้อมปรับเพดานตรึงราคาใหม่
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ในกรอบแคบ โดยเราขาดว่าปริมาณซื้อขายจะเบาบางเนื่องจากติดช่วงวันหยุดยาว ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกว่า เฟดจะดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,680-1,690 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB GPSC GULF ADVANC TRUE DTAC
• กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
• จ่อปลดล็อกเข้าประเทศทุกเงื่อนไข 1 มิ.ย.นี้ เลิก ThailandPass/Test&Go : AOT ERW CENTEL MINT AWC
หุ้นรายงานพิเศษ
CPN “ซื้อ” (ราคาเหมาะสม
Bloomberg Consensus 65.00 บาท)
•ผลการดำเนินงานปี 65 มีแนวโน้มฟื้นตัวแรงจากฐานต่ำทั้งกลุ่มธุรกิจเดิมซึ่งคาดหวังว่าจะเห็น Traffic Recovery ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ลดลง และการเปิดบริการศูนย์การค้าใหม่ บริษัทเพิ่งประกาศแผนเริ่มพัฒนาโครงการใหม่ “เซ็นทรัล เวสต์วิว ราชพฤกษ์” พื้นที่กว่า 40 ไร่ พื้นที่ปล่อยเช่าสำหรับค้าปลีกราว 30,000 ตร.ม. งบลงทุนประมาณ 6,200 ล้านบาท โดยนำจุดแข็งจากโมเดลเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ semi-outdoor มาปรับใช้ คาดสร้างเสร็จช่วง 4Q66 ส่วนสาขาจันทบุรีจะเปิดบริการ 26 พ.ค. 65 รองรับความเจริญในเขต EEC ผบห.คาดโครงการใหม่ที่เปิดในปี 64 (อยุธยาและศรีราชา) และปี 65 (จันทบุรี) จะหนุนรายได้ปี 65โตราว 20-30%
•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกจากการเปิดโครงการต่อเนื่องหนุนรายได้มีศักยภาพเติบโตเนื่อง ประกอบกับความกังวลต่อโควิด-19 ที่เริ่มลดลงเพราะกลายเป็นโรคประจำถิ่น และในวันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไปประเทศไทยจะเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามามากขึ้น สอดคล้องกับการใช้จ่ายภายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ 4Q64 ที่เริ่มเปิดเมืองเป็น sentiment ที่ดีต่อธุรกิจ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 9,014 ล้านบาท +26%YoY
หุ้นมีข่าว
(+) ILINK (Bloomberg Consensus - บาท) จ่อคว้างานเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่าของ กฟภ. เหตุเสนอราคาต่ำสุด เหลือด่านสุดท้ายพิจารณาเอกสาร ได้ข้อสรุปเมษายนนี้ หนุนให้งานในมือเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1.5 พันล้านบาท จับตาเข้าประมูลเคเบิลใต้น้ำเกาะสีชังต่อไปใน 2-3 เดือนต่อจากนี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PJW (Bloomberg Consensus 6.20 บาท) PJW เซ็นเอ็มโอยู EA วิจัยและพัฒนาเปลือกแบตเตอรี-ระบบหล่อเย็นสำหรับแบตเตอรี และระบบหล่อเย็นมอเตอร์ขับเคลื่อนด้วยพลาสติกคุณภาพสูง ลดน้ำหนักแบตเตอรี วิ่งได้ระยะทางไกลขึ้น เริ่มผลิตแบบจำลองปีนี้ ก่อนจำหน่ายเชิงพาณิชย์ปีหน้า มั่นใจโกยยอดขายปีแรก 100 ล้านบาท ก่อนเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท ภายใน 2569 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) HMPRO (Bloomberg Consensus 17.50 บาท) ส่องกำลังซื้อเริ่มฟื้น ดันผลงานไตรมาสแรก เดินหน้าเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ อัดแคมเปญส่งเสริมการขาย Homepro Day, Homepro Super Expo และได้อานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ หนุน SSSG โต แถมลุยตลาดออนไลน์ต่อเนื่อง พร้อมจัดงบลงทุน 6,000 ล้านบาท ขยายสาขา 4-7 สาขา รองรับการเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PRM (Bloomberg Consensus 7.39 บาท) ความต้องการน้ำมันอากาศยาน (Jet-A1) ดีขึ้น รับอานิสงส์รัฐผ่อนคลายนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทาง ขณะที่ดีมานด์เรือ FSU ฟื้น ศักยภาพ พร้อมรองรับการจัดเก็บน้ำมันทางทะเล จับตาปีนี้มีโอกาสเห็นรายได้จากการขยายเส้นทางไปจีน-อินเดียเพิ่มขึ้น เตรียมรับเรือเพิ่มอีก 2 ลำ ทั้งปีมั่นใจรายได้ตามเป้า 10% (ที่มา ทันหุ้น)