HUMAN แนวโน้มสดใส (วันที่ 12 เมษายน 2565)
ในการประชุม AGM ของ HUMAN เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนเข้าซื้อกิจการ DataOn Group (โดยการถือหุ้น 100% ใน PT, Indodev/ DataOn International/ และ DataOn (Thailand) และ 55% ใน Synergy Outsourcing; Figure 1)
และอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 345 ล้านบาทเป็น 438 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ 187 ล้านหุ้น โดยมีมูลค่าพาร์ 0.50 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่าธุรกรรม ~2พันล้านบาท และคิดเป็น PER ที่ประมาณ 30X ซึ่งคาดว่าธุรกรรมนี้จะดำเนินการเสร็จเรียบร้อยในเดือนพฤษภาคม 2565 หมายความว่า HUMAN จะรวมผลการดำเนินงานของ DataOn 1.5 เดือนเข้ามาอยู่ในงบรวมของบริษัทใน 2Q65
ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 20% โดยตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิที่ 30%
บริษัทมีแผนจะวางจำหน่ายซอฟต์แวร์ “WorkPlaze” ซึ่งเป็นการผนวกจุดแข็งของ Humatrix และ Sunfish ให้กับลูกค้าในประเทศไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย (คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2565) ซึ่งเมื่อบวกกับบริการในปัจจุบัน และ platform อย่างเช่น Benix และ Pharmacare รวมถึงลูกค้าเป้าหมายที่อยู่ใน pipeline ผู้บริหารของบริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะโตถึง 20% และจะพุ่งแรงต่อไปอีกในปี 2566
ผลการดำเนินงานที่ไม่สนใจใน 1Q65 จะเป็นช่วงที่เหมาะเข้าซื้อสะสม
ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานของ HUMAN จะมีแนวโน้มดีขึ้นบ้างใน 1Q65 จากการที่กิจกรรมทางธุรกิจเริ่มกลับมา แต่ตัวเลขผลประกอบการจะยังคงไม่น่าสนใจ โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q65F จะอยู่ที่ 43 ล้านบาท (+20% YoY, ทรงตัว QoQ) โดยคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 189 ล้านบาท (+12% YoY, ทรงตัว QoQ) เราเชื่อว่าผลการดำเนินงานที่ไม่น่าสนใจใน 1Q65 จะเป็นโอกาสดีให้เข้าซื้อสะสมหุ้น HUMAN เพื่อดักหน้าแนวโน้มที่สดใสในระยะต่อไป จากการรวมผลการดำเนินงานของ DataOn เข้ามาในงบรวมของบริษัทและจำนวนลูกค้าใหม่ ๆ ที่คาดว่าจะเพิ่มเข้ามา เราได้ปรับประมาณการกำไรปี 2565-2566 เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานที่ต่ำเกินคาดใน 4Q64 โดยเราปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-2566 ลง 17%(Figure 3) ทั้งนี้ เราได้รวมผลการดำเนินงานของ DataOn เข้ามาในประมาณการกำไรปีนี้ของเรา และคาดว่ากำไรของ DataOn จะคิดเป็นสัดส่วน ~25% ของกำไรสุทธิปี 2565 ของ HUMAN ดังนั้น เราจึงคาดว่า EPS ของ HUMAN จะเพิ่มขึ้น 22% YoY ในปี 2565F และจะโตถึง 45% YoY ในปี 2566F
Valuation & action
เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มที่สดใสของบริษัท เราจึงใช้ PER ที่ 41.8x (ค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มนี้ในตลาดโลก
+2.0 S.D.) โดยอิงจาก EPS ปี 2566 และใช้ WACC ที่ 9.5% ทำให้ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 16.70
บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 15.50 บาท เรายังคงมองบวกกับแนวโน้ม digital transformation และยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
Risk
การแข่งขันจากบริษัทต่างชาติ, การละเมิดลิขสิทธิ์, disruption จากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ, การพึ่งพาผู้บริหารหลัก