PTTEP มั่นใจปีนี้ รักษา อิบิทดา 70-75% ครึ่งปีหลัง ปริมาณการขาย-ราคาขายพุ่ง

นางสาวอรชร อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2565 คาดจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้  เพราะ จากปริมาณการขาย และราคาขายในครึ่งปีหลังจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าครึ่งปีแรก 

 โดยคาดการณ์ปริมาณการขายไตรมาส 3ปี 2565 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 481,000 บาร์เรลต่อวัน  จากไตรมาส2ปี 2565 อยู่ที่  465,459 บาร์เรลต่อวัน  และงบปี 2565 จะอยู่ที่ 465,000 บาร์เรลต่อวัน  ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติ ในไตรมาส 3 และทั้งปี 2565 น่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 6.4 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู  และไตรมาส 4 ปีนี้ ราคาก๊าซฯจะทำราคาสูงสุด (นิวไฮ ) เพราะเป็นรอบของการปรับราคาสัญญาในอ่าวไทยในหลายโครงการ ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นมากก่อนหน้านี้

"ปริมาณการขายที่มาจากโครงการใหม่ ที่เริ่มผลิตในปีนี้ เช่น โครงการ G1/61 เอราวัณ จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 3  และไตรมาส 4 ปีนี้ และรับรู้รายได้เต็มปีเป็นปีแรกของโครงการมาเลเซีย แปลงเอช และโครงการโอมาน แปลง 61"

ด้านต้นทุนเฉลี่ยมีโอกาสปรับเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ แต่คาดว่าจะสามารถรักษาระดับต้นุทนต่อหน่วยได้เฉลี่ยอยู่ที่ 29-30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  และคาดว่าอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ในไตรมาส3และทั้งปีนี้จะทรงตัว อยู่ที่ประมาณ 70-75% ของรายได้จากการขาย           

นายธนัตถ์ ธำรงศักดิ์สุวิทย์ผู้จัดการ แผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท.สผ. กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบช่วงครึ่งปีหลัง 2565 อยู่ที่ 90-105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แตะระดับ 101 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 99 ล้านบาร์เรลต่อวันในครึ่งปีแรก  

ส่วนแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติ LNG อยู่ที่ 27-33 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู โดยสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนเป็นปัจจัยหลักสร้าง ความผันผวนต่อราคาก๊าซ LNG และคาดว่าความต้องการใช้ก๊าซ LNG ในปีนี้ยังมีปริมาณ เพิ่มสูงขึ้น อยู่ที่ 392 ล้านตันต่อปี