18 ประกันภัย “รอด” หรือ “ทรุด” หลังโชว์งบครึ่งปีแรก 65

หนักสุด...ขาดทุนครั้งประวัติศาสตร์สำหรับธุรกิจประกันช่วงปี 2564 จากหุ้น "Defensive" เป็นหลุมหลบภัยในสถานการณ์วิกฤติ กลายเป็นหุ้น "ดีแตก" สุดท้ายต้องหลบภัยตัวเองด้วยการยืนล้มละลายต่อศาลเพราะไปต่อไม่ไหว
ปี 2565 ถือว่าเป็นช่วงรอการฟื้นตัวด้วยสถานการณ์โควิด-19 เป็น โรคประจำถิ่น ไม่สามารถเครมเอาประกันภัยได้ และการทยอยหมดอายุของประกันประเภท“เจอ จ่าย จบ”
“เจอ จ่าย จบ” ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในอุตสาหกรรมที่ผ่านมา
- “สินมั่นคงประกันภัย” หรือ SMK
โดยมี “สินมั่นคงประกันภัย” หรือ SMK ถือว่าเป็นรายแรกๆ ที่ออกอาการซวนเซจนถึงขั้นมีคำสั่งระงับการขายประกัน งวดไตรมาส 3 ปี 2564 ขาดทุนถึง 3,662 ล้านบาท ติดลบ 2,388% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 160 ล้านบาท มาจากค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 7,552.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,309.89 ล้านบาท หรือ 236.76 % จากงวดเดียวกันของปี ตามมาด้วย
- เอเชียประกันภัย - เดอะวัน ประกันภัย
- เคส “ช้างล้ม” อาคเนย์ประกันภัย - ไทยประกันภัย ในกลุ่มของเครือไทย โฮลดิ้งส์ หรือ TGH
ล้วนมีฐานะขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถจ่ายเคลมให้ลูกค้าได้ บางรายยื่นขอล้มละลายต่อศาลปกครองกลางจนนำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาต
ทั้งหมดคือ ความโกลาหลที่เกิดกับลูกค้าที่ค้างเติ้งไม่สามารถเคลมประกันได้ และธุรกิจต้องเร่งหาพันธมิตรเพื่อเพิ่มทุนใส่สภาพคล่องเข้ามา ปรับโครงสร้างหนี้ หากยังต้องการดำเนินธุรกิจต่อไป หรือไม่ก็ขายกิจการในท้ายที่สุด
อย่างไรก็ตามปี 2565 สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เพราะผู้ที่รอดในอุตสาหกรรมหลายรายเตรียมฟื้น จากการจ่ายยอดเคลมโควิดลดลง ได้ผลดีจากเงินลงทุนในตราสารหนี้ และยังได้รับอานิสงส์ความต้องการทำประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้น
บริษัทประภัยในตลาดหุ้น ช่วงไตรมาส 2 ปี 2565
จาก 18 บริษัทประภัย ในตลาดหุ้น ช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนรายการกำไรออกมา
กลุ่มบริษัทประภัยที่พลิกกลับมาเป็นบวกสูงสุด ปรากฏเป็น
- บมจ.อินทรประกันภัย หรือ INSURE
มีกำไร 107.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น มากกว่าล้านเปอร์เซ็นต์ จาก 0.005 ล้านบาท และครึ่งปีแรก มีกำไร 705.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นหมื่นเปอร์เซ็นต์ หุ้น INSURE อยู่ในกลุ่ม TGH ประกอบไปด้วย ธุรกิจประกันชีวิตที่เป็นกำไรหลักของกลุ่ม คือ
- “อาคเนย์ประกันชีวิต”
- ธุรกิจประกันวินาศภัย ผ่าน “อาคเนย์ประกันภัย”
- “อินทรประกันภัย”
- “ไทยประกันภัย”
- ธุรกิจลิสซิ่ง ผ่าน “อาคเนย์ แคปปิตอล”
- บมจ.จรัญประกันภัย หรือ CHARAN
กลับมาพลิกมีกำไร 6.54 ล้านบาท จากขาดทุน 3.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 297% เป็นผลมาจากเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น 365% รายได้จากลงทุน และอื่นเพิ่มขึ้นเช่นกัน 26%
- บมจ.เคดับบลิวไอ หรือ KWI
รายงานพลิกมามีกำไรเช่นกันที่ 57.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% จากที่ขาดทุน 228 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะธุรกิจประกันชีวิต มีกำไร 156.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 338% จากที่ขาดทุน 65.6% ท่ามกลางธุรกิจอื่นในกลุ่มไม่ว่าจะเป็นอสังหาฯ – ประกันวินาศภัย และบริหารสินทรัพย์ กลับขาดทุนต่อเนื่อง
- บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต หรือ BLA
กำไรอยู่ที่ 1,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% มาจากมีรายได้รวมลดลงแต่ได้ประโยชน์จากรายจ่ายที่ลดลง 7% สวนทางกับรายได้จากเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น 7% สวนทางกับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย หรือ BKI มีกำไรลดลง 52% อยู่ที่ 428 ล้านบาท ซึ่งยังขาดทุนจากการรับประกันภัย ตามสินไหมทดแทนประกันโควิด
- บมจ.ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TIPH
พลิกมาขาดทุน 315 ล้านบาท หรือลดลง 152% จากการจ่ายสินไหมประกันโควิดเพิ่มขึ้น 103% บวกกับผลการลงทุนลดลงเกือบ 40% ท่ามกลางตัวเลขเบี้ยประกันรวมกลับมาเติบโต
- บมจ.ไทยประกันชีวิต หรือ TLI
รายใหญ่ที่พึ่งตบเท้าเข้าตลาดหุ้น บมจ.ไทยประกันชีวิต หรือ TLI ที่ราคาหุ้นยังไม่สามารถพ้นราคาจองได้ที่ 16 บาท รายงานกำไร 2,018 ล้านบาท ลดลง 26% ซึ่งมีไฮไลต์ที่น่าสนใจคือ การตั้งรายการสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นบางส่วน เพื่อสะท้อนความเสี่ยงด้านเครดิตที่ลดลงเกือบ 400 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวถือว่าได้สะท้อนภาพในอดีตซึ่งสวนทางกับราคาหุ้นในปัจจุบัน เพราะเริ่มมีการมองแล้วว่าราคาหุ้นได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และรายที่มีฐานทุนที่แข็งแกร่งกลับมาเติบโตได้มองเป็นหุ้นที่กลับมาน่าลงทุนได้อีกครั้ง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์