FORTH แรงสุดพลัง |ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ FORTH แรงสุดพลัง

        ตลาดหุ้นไทยเจอแรงขาย(เบา)หุ้นใหญ่ไซส์บิ๊กแคป ที่ขึ้นมาตามแรงซื้อของต่างชาติแต่พอแรงซื้อเริ่มแผ่วมีแรงขายทำกำไรผสมเลยทำให้ช่วงนี้หุ้นใหญ่ไม่แรง

      ช่วงแบบนี้เลยเป็นโอกาสที่ หุ้นเล็ก สลับตัวเข้ามาลงทุนแทนให้ได้ลุ้น ส่วนหุ้นที่เข้าตาม และมาแรงยกให้ FORTH ด้วยราคาหุ้นเหนือ 50 บาท มาปิดที่ราคาสูงสุดของวันอยู่ที่ 53.25 บาท บวกไป 5.45% เป็นราคาวิ่งแรงสุดในรอบ 2 เดือน !!

        นอกเหนือจากได้เข้าดัชนี FTSE Rebalancing ด้วยการประกาศรายชื่อหุ้นไปแล้วยังเตรียม “ปลดล็อก” ข้อจำกัดจาก พ.ร.บ.กัญชา - กัญชง เตรียมเข้าพิจารณาในสภาสัปดาห์นี้ 103 มาตรา

       โดยเฉพาะการควบคุมการขาย หลังที่ผ่านมาทำ “ตู้เต่าบิน” ลูกรักของ FORTH ที่กระแสแรง และดังในโซเชียลเจอ “สตั๊น” ต้องถอดเครื่องดื่มทุกรายการที่เกี่ยวข้องออกทั้งหมด

๐๐๐

หุ้นไทยถูกถล่มขายหนักในช่วงบ่าย หลังตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบ ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ วิกฤติเศรษฐกิจ และปัญหาพลังงานขาดแคลน ขณะเดียวกันนักลงทุนรอติดตามการประชุมใหญ่ของเฟดที่แจ็กสัน โฮล เพื่อจับสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย

โดยดัชนี ปิดการซื้อขายที่ 1,615.82 จุด ลดลง 10.10 จุด หรือ 0.62% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,628.51 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,612.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,090.04 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อ 1,539.00 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อ 384.81 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อ 1,612.50 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนสถาบันขาย 3,536.31 ล้านบาท

๐๐๐

เนื้อหอมสุดๆ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) หลังมีข่าวสะพัดขายที่ดินล็อตใหญ่ให้ลูกค้าอีวีจากจีน พร้อมปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินปีนี้เป็น 1,650 ไร่ จากเดิม 1,250 ไร่

ถือเป็นข่าวดีช่วยประคองหุ้น WHA ยืนบวกได้ โดยระหว่างวันขึ้นไปแตะจุดสูงสุด 3.40 บาท ก่อนปิดการซื้อขายไม่เปลี่ยนแปลง 3.36 บาท

๐๐๐

ต้องยอมรับว่ากระแสอีวีมาแรงจริงๆ โดยไทยตั้งเป้าผลิตรถอีวีให้ได้ 30% ภายในปี 2573 ล่าสุด รมว.คมนาคม ประกาศลั่นจะเปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะเป็นรถอีวีทั้งหมดภายใน 3 ปี ได้ยินแบบนี้แล้ว ถามว่าใครน่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด?

งานนี้เชื่อเลยว่า บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ติดโผมาเป็นอันดับแรกแน่นอน เพราะเชี่ยวชาญอยู่แล้วในการทำรถบัสอีวี ไม่แปลกที่ราคาหุ้นจะปิดบวกสวนกระดานไปได้ โดยปิดซื้อขาย 16.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.62%

๐๐๐

ส่วนหุ้นตกแต่งภายใน บมจ.บางกอก เดค-คอน (BKD) ราคาวิ่งแรงจนน่าแปลกใจ บวก 12.71% ปิด 2.66 บาท ทำนิวไฮในรอบ 1 เดือน หลังผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่อง ครึ่งแรกตุนกำไรเข้ากระเป๋าไปแล้วเกือบ 40 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น

หลังโควิดคลี่คลาย รัฐเปิดประเทศ หนุนเศรษฐกิจกลับมาคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโรงแรม ขณะที่ผู้บริหารโปรยยาหอมให้ความมั่นใจครึ่งปีหลังไปได้สวยกว่านี้

๐๐๐

หุ้น บมจ.พริมา มารีน (PRM) วิ่งฉิวสวนทางเพื่อนๆ ในกลุ่มเดินเรือด้วยกัน ราคามาปิดที่ 5.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 5.41% รับอานิสงส์การขนส่งน้ำมันโตแรง รวมทั้งมีแผนรับเรือใหม่เข้ามาต่อเนื่องตลอดทั้งปี

๐๐๐

ส่วนหุ้นน้องใหม่ บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (TGE) อาการยังน่าเป็นห่วง เทรดวันที่ 2 ยังต่ำกว่าไอพีโอ ปิด 1.90 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 2.56% ส่วนตัวธุรกิจผู้บริหารให้ความมั่นใจว่าผลงานครึ่งปีหลังโตแกร่ง หลังเตรียมรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลเข้ามาเต็มปี

๐๐๐

ปิดท้ายกับ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) เป็นอีกบริษัทที่มีข่าวมาให้ติดตามตลอดๆ ล่าสุดประกาศปิดดีลใหม่ หลังทุ่มเงิน 55 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 25% ใน “ไซเบอร์ตรอน” รุกธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่กำลังมาแรงสุดๆ ถือเป็นหัวใจหลักของโลกยุคดิจิทัล ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังภัยคุกคามในโลกออนไลน์

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์