ปลุกชีพ SMK | ออฟเรคคอร์ด

ปลุกชีพ SMK | ออฟเรคคอร์ด

ธุรกิจแย่แต่ไม่จำเป็นที่ราคาหุ้นต้องร่วงตลอดไปเป็นคาถาชั้นดีสำหรับหุ้น “ไร้ข่าวบวก” แต่ “รับข่าวลบ” ไปแบบเต็มๆ

๐๐๐ ปลุกชีพ SMK 

        ธุรกิจแย่แต่ไม่จำเป็นที่ราคาหุ้นต้องร่วงตลอดไปเป็นคาถาชั้นดีสำหรับหุ้น “ไร้ข่าวบวก” แต่ “รับข่าวลบ” ไปแบบเต็มๆ อย่าง SMK  เจ้าของประกัน  “เจอ จ่าย จบ” กลายเป็น “จบ จ่าย เจ็บ” ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

 

         ด้วยเปิดหน้าข่าวร้ายมาหมดทุกอย่างตั้งแต่ไร้สภาพคล่อง - ยึดใบอนุญาต - เพิ่มทุน และยื่นล้มละลาย    ที่นอกจากจะทำให้ “ลูกค้า” ค้างเติ่งรอเคลมประกัน แล้ว “รายย่อย” ที่รอเก้อไม่แพ้กันเพราะช่วงเก็งกำไรก่อนจะขอยื่นฟื้นฟูกิจการพร้อมหยุดการซื้อขายมีสายเก็งกำไร ช้อน ดักรอ

      ไทม์มิ่งมาตามนัดของจริงหลังราคาหุ้นเปิดให้ซื้อขายจากระดับหลักสิบบาทหล่นตุ้บเหลือ 2 บาท  จนกลายเป็นราคาหุ้น น่าเสี่ยง  เกิดไล่ราคามา 2 วันติดๆ จนทำ 2 ซิลลิ่งติดกัน สามารถเรียกความสนใจให้รายย่อยเข้ามาไม่น้อย 

      เพราะที่ว่าน่าเสี่ยง... หนีไม่พ้นใกล้งวดที่ ศาลเตรียมพิจารณาไต่สวนครั้งแรก และอาจได้เห็นโฉมหน้าผู้ลงทุนราย ใหม่ ที่ ใหญ่ กว่าเดิม 

      ถ้ารอบนี้ใครไวและไหวตัวทัน ... ได้ลุ้นกันหนัก 

๐๐๐

แรงเทขายหุ้นพลังงานกดดันหุ้นไทยไปไหนไม่ได้ไกล หลังราคาน้ำมันดิ่งแรง แต่โชคดีได้อานิสงส์จากฟันด์โฟลว์ต่างชาติช่วยประคองไว้ ทำให้ไหลลงไปไม่เยอะ

โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,638.93 จุด ลดลง 0.52 จุด หรือ 0.03% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,644.09 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,630.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 99,716.67 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อ 3,117.64 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อ 206.19 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขาย 2,187.90 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขาย 1,135.93 ล้านบาท

๐๐๐

หุ้นธนาคารกสิกรไทย (KBANK) วอลุ่มสูงสุดในกระดาน แต่เป็นแรงขายกดราคาหุ้นลงมาปิด 153.50 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 1.29% หลัง MSCI เริ่มปรับน้ำหนัก เพิ่มหุ้น KBANK เข้าดัชนี MSCI Global Standard Index เป็นที่เรียบร้อย

ขณะเดียวกันพบรายการบิ๊กล็อต KBANK 2 รายการ จำนวน 4,322,000 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 153.96 บาท มูลค่ารวมมากที่สุดของวันกว่า 665.42 ล้านบาท

๐๐๐

สำหรับราคาหุ้น “กลุ่มซีพี” หลังมีข่าวสะพัดเข้าประมูลซื้อกิจการค้าส่งในอินเดีย “เมโทร แคช แอนด์ แคร์รี” มูลค่าราว 1 พันล้านดอลลาร์ ปรากฏว่าหุ้นบมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ราคาย่อลงเล็กน้อย ปิด 34.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.72% หลังมีการประเมินว่าอาจใช้ MAKRO เข้าไปซื้อ

ส่วนบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ยังได้รับอานิสงส์จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะเดียวกันได้รับจิตวิทยาเชิงบวก หลังรัฐบาลเล็งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี หนุนราคาหุ้นปิด 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.41%

๐๐๐

“กลุ่มโรงพยาบาล” บวกสวนกระดาน นำโดยหุ้นบมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ปิด 216.00 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 0.47% ตามด้วย บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS)  ปิด 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 3.54% คาดหวังกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลางปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลเดินหน้ายกระดับความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย ล่าสุดเพิ่งมีการทำ FTA ระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ

ด้านบอร์ด BDMS ไฟเขียวแจกปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.30 บาท เตรียมขึ้น XD วันที่ 14 ก.ย. นี้ และจ่ายจริง 30 ก.ย.

๐๐๐

ส่วนหุ้นบมจ.บ้านปู (BANPU) หลายคนเฝ้ารอว่าจะจ่ายปันผลกี่บาท หลังก่อนหน้านี้เพื่อนในกลุ่ม บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) จัดหนักให้หุ้นละ 1.45 บาท โดยล่าสุดบอร์ด BANPU เคาะแล้วปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.45 บาท ขึ้น XD 8 ก.ย. และจ่ายจริง 30 ก.ย.

๐๐๐

 “หุ้นยางมะตอย” บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) ปิด 16.70 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.60% ตอบรับข่าวดีหลัง ครม. อนุมัติงบกว่า 5 พันล้านบาท เพื่อก่อสร้างปรับปรุงซ่อมแซมถนน รวมทั้งพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำกว่า 5 พันล้านบาท 

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์