ทีเส็บ ฟื้นไข้โควิดปั๊มรายได้ 2.8 แสนล้านปี 67 คว้า 3 งานประชุมบูม 3 เมืองไมซ์
“ทีเส็บ” คาดตลาดไมซ์ไทยฟื้นไข้โควิดเต็ม 100% กลับมาสร้างรายได้กว่า 2.8 แสนล้านบาทในปี 67 เท่าปี 62 ก่อนเกิดวิกฤติ พร้อมโชว์ผลงานคว้า 3 งานประชุมนานาชาติด้านวิศวกรรมไฟฟ้า-พลังงาน จัดใหญ่ 3 ปีต่อเนื่องใน 3 เมืองไมซ์ คาดเงินสะพัดกว่า 837 ล้านบาท
นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) กล่าวว่า ทีเส็บคาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่เดือน ต.ค.2566-ก.ย.2567 รายได้อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE: การจัดประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า) ของประเทศไทย จะฟื้นตัว 100% เมื่อเทียบกับรายได้ปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด
เมื่อปีงบประมาณ 2562 ภาคธุรกิจไมซ์สร้างรายได้เข้าประเทศและก่อให้8เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 280,000 ล้านบาท เกิดผลประโยชน์จากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจในประเทศประมาณ 277,000 ล้านบาท สร้างการจ้างงานประมาณ 410,000 อัตรา ตลอดจนสร้างรายได้จากภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บโดยประมาณจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานประชุมอีกประมาณ 20,000 ล้านบาท
การฟื้นตัวดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีงบประมาณ 2566 ซึ่งทีเส็บคาดว่ารายได้ไมซ์จะฟื้นตัวประมาณ 70% มีนักเดินทางไมซ์รวมประมาณ 6 ล้านคน แบ่งเป็นนักเดินทางไมซ์ตลาดต่างประเทศ 1.2 ล้านคน ใช้จ่ายเฉลี่ย 80,000 บาทต่อคนต่อทริป ส่วนนักเดินทางไมซ์ตลาดในประเทศมี 4.8 ล้านคน ใช้จ่ายเฉลี่ยตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันบาทต่อคน ขณะที่รายได้ตลาดไมซ์ปีงบประมาณ 2565 คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวราว 40%
รายงานข่าวจากทีเส็บ ระบุว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1-3 ของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.2564 – มิ.ย.2565) มีจำนวนนักเดินทางไมซ์ในและต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 3,446,102 คน สร้างรายได้ 16,344 ล้านบาท โดยทีเส็บคาดการณ์ว่าภายในปีงบประมาณ 2565 (ต.ค. 2564 – ก.ย. 2565) จะมีจำนวนนักเดินทางไมซ์ทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 6,130,000 คน คิดเป็นรายได้ 28,400 ล้านบาท
นางนิชาภา กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด ทีเส็บ ได้จับมือกับสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) คว้า 3 งานประชุมนานาชาติด้านวิศวกรรมไฟฟ้า-พลังงาน จัดใน 3 เมืองไมซ์ไทย ต่อเนื่อง 3 ปี ประกอบด้วย งานประชุม IEEE PES APPEEC 2023 จัดที่ จ.เชียงใหม่ ในปี 2566 งานประชุม IEEE ISC2 2024 จัดที่เมืองพัทยา ในปี 2567 และงานประชุม IEEE PES GTD Asia 2025 ซึ่งเป็นงานสัมมนาวิชาการและนิทรรศการด้านไฟฟ้าและพลังงานระดับนานาชาติงานใหญ่ จัดที่กรุงเทพฯ ในปี 2568 จะดึงผู้ร่วมงานจากทั่วโลกรวมกว่าหมื่นคน
ทั้งนี้ ทีเส็บประเมินว่าทั้ง 3 งานดังกล่าว จะสร้างรายได้เข้าประเทศและก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมกว่า 837 ล้านบาท เกิดผลประโยชน์จากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจในประเทศประมาณ 465 ล้านบาท และจะเกิดการจ้างงานประมาณ 586 อัตรา ตลอดจนสร้างรายได้จากภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บโดยประมาณจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานประชุมอีกประมาณ 29 ล้านบาท
“การที่ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเมืองเจ้าภาพงานประชุมนานาชาติด้านไฟฟ้าและพลังงานทั้ง 3 งานนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของไทยในสาขาไฟฟ้าและพลังงาน ทั้งด้านวิทยาการและองค์ความรู้ ด้านบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิและสมาคมไทยที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี ผู้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาด้านไฟฟ้าและพลังงานของไทย ช่วยตอกย้ำความมั่นใจในการต่อยอดดึงงานใหญ่ระดับโลกสู่ไทยได้ในอนาคต”
นายสมชาย หอมกลิ่นแก้ว อุปนายกสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) และรองผู้ว่าการวางแผนและนวัตกรรมระบบไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง กล่าวเพิ่มเติมว่า ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของสมาคมฯ และทีเส็บในความพยายามเสนอประเทศไทยเป็นเมืองเจ้าภาพงานประชุมนานาชาติสำคัญๆ ร่วมกันตลอดมา โดยสามงานดังกล่าว ได้แก่ 1.งาน 15th Annual Asia-Pacific Power & Energy Engineering Conference หรือ IEEE APPEEC 2023 เป็นงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและพลังงาน ซึ่งกำหนดจะจัดในเดือนธันวาคม 2566 ที่เชียงใหม่ คาดจะมีผู้เข้าร่วมงาน 700 คน
2.งาน IEEE International Smart Cities Conference หรือ ISC2 2024 ซึ่งเป็นงานประชุมหลักของ IEEE Smart Cities จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อนำเสนอเทคโนโยลี และเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยงานจะจัดในปี 2567 ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี คาดมีผู้ร่วมงานกว่า 500 คน
และ 3.งาน IEEE PES GTD Grand International Conference and Exposition Asia หรือ GTD Asia 2025 เป็นงานสัมมนาวิชาการและนิทรรศการนานาชาติ เพื่อให้ผู้ประกอบการชั้นนำจากทั่วโลกได้เข้าร่วมแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและพลังงานอย่างครบวงจร โดยจะจัดในปี 2568 ที่กรุงเทพฯ คาดจะมีผู้ร่วมงานจากทั่วโลกกว่า 10,000 คน