'ลีกุมกี่’ลุยธุรกิจเฮลธ์ตี้ฟู้ดส์ ขยายฐานเจาะ‘ฟู้ดเซอร์วิส’
แบรนด์ซอสปรุงรสอันดับต้นในเอเชีย 'ลีกุมกี่' เกาะเมกะเทรนด์สุขภาพบูม ดันโปรดักต์ซอส-เครื่องปรุงรส เฮลธ์ตี้ฟู้ดส์ เจาะตลาดเชฟ-ฟู้ดเซอร์วิส
นางสาวเชอรอล ชาน ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาคเอเชียใต้ ลีกุมกี่ ซอส กรุ๊ป กล่าวว่า ภาพรวมตลาดซอสปรุงรสในไทยมีการขยายตัวที่ดีจากแรงหนุนการเปิดประเทศทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจอาหารกลุ่มโฮเรก้า ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องขยายตัวสูง
แผนรุกตลาดปี 2566 ประเดิมการร่วมงานมหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม “THAIFEX-Anuga Asia 2023” เป็นปีแรก ภายใต้แนวคิด จากเอเชียสู่ทุกครัว (From Asia to Any Kitchen) นำเสนอผลิตภัณฑ์ซอสและเครื่องปรุงรสภายใต้แบรนด์ “ลีกุมกี่” (LEE KUM KEE) พร้อมไฮไลต์เชฟยอดนิยมทั้ง เชฟป้อม-ธนรักษ์ ชูโต จากประเทศไทย และ มาสเตอร์เชฟ กว็อก เคียง ชาน จากฮ่องกง ร่วมปรุงอาหารโชว์ในงานด้วยผลิตภัณฑ์ของบริษัท
“เป็นการตอกย้ำแบรนด์ในความเป็นมืออาชีพที่มีประวัติยาวนาน 135 ปี จากสินค้ากลุ่มแรกซอสหอยนางรม ปัจจุบันมีสินค้าซอสและเครื่องปรุงรสมากกว่า 300 รายการ จำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก”
ทั้งนี้ การเข้ามาทำตลาดในไทยกว่า 20 ปี มี บริษัท ล๊อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ดูแลการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีก และ บริษัท แพนฟู้ด จำกัด ดูแลตลาดฟู้ดเซอร์วิส เจาะกลุ่มโฮเรก้า (Horeca) ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร กาแฟและธุรกิจจัดเลี้ยง ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายจะมาจากค้าปลีก 50% ฟู้ดเซอร์วิส 50%
นางสาวปรมตา จันทกูล ผู้จัดการธุรกิจ ลีกุมกี่ ในประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2566 บริษัทจะมีการนำเสนอสินค้ากลุ่มซอสและเครื่องปรุงรส ที่เน้นความเป็น เฮลธ์ตี้ฟู้ดส์ (Healthy food) มากขึ้น ทั้งมีสูตรลดเค็ม ลดโซเดียม เปิดตัวในงานไทยเฟ็กซ์ 2023
“กลุ่มลูกค้าชาวไทยสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น นับเป็นการเปิดตัวเข้าทำตลาดในไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน จากก่อนหน้านี้ทำตลาดในประเทศจีน”
บริษัทมุ่งขยายตลาดกลุ่มฟู้ดเซอร์วิสมากขึ้นเนื่องจากมีการขยายตัวสูงมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในอนาคต เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดกลุ่มซอสปรุงรสและเครื่องปรุงรสนำเข้าเซ็กเมนต์พรีเมียมในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าลีกุมกี่ นำเข้าจากมาเลเซียซึ่งเป็นฐานผลิตที่สำคัญในภูมิภาคนี้ซึ่งมีการผลิตสินค้าฮาลาลด้วย