100 ปี ‘บ๊อช ประเทศไทย’ เชื่อมั่นศักยภาพธุรกิจ ยังโตต่อแข็งแกร่ง
“บ๊อช” องค์กรธุรกิจจากเยอรมัน ที่เข้ามาปักหมุดลงทุน ขยายกิจการในประเทศไทยยาวนานถึง “ร้อยปี” เริ่มต้นจากขาย “หัวเทียน” และขยายพอร์ตโฟลิโอให้หลากหลาย นำทัพทำเงินสู่ หมื่นล้าน
ปี 2566 เป็นปีที่ “บ๊อช ประเทศไทย” เคลื่อนธุรกิจสู่ "องค์กรร้อยปี” ที่มีจุดเริ่มต้นจากการจำหน่าย “หัวเทียน” ปัจจุบันเติบใหญ่ มีหมวดสินค้าที่หลากลายตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ภายในครัวเรือน มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดหมู่ต่างๆ ทำตลาด และอุตสาหกรรมการค้ามีระบบรักษาความปลอดภัย เครื่องมือไฟฟ้า และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนและควบคุมให้บริการ เป็นต้น
ผ่านศตวรรษแห่งการเติบโต ในปี 2566 และอนาคต วางกลยุทธ์ ผลักดันองค์กรให้เติบโตต่อเนื่อง
โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการ บ๊อช ประเทศไทย พาย้อนดูผลงานความสำเร็จด้านการดำเนินงานของบริษัทในปี 2565 ทำเงิน 397 ล้านยูโร หรือราว 14,600 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 10.7% จากปีก่อนหน้า(ยังเป็นช่วงที่โควิด-19 ระบาด) ปัจจัยการเติบโต เพราะสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ส่งผลให้ “ความต้องการ” หรือ Demand ตลาดกลับมา รวมถึงซัพพลายในตลาดดีขึ้น
ทั้งนี้ หากดูกลุ่มธุรกิจที่เติบโต “ยานยนต์” ยังมีบทบาทสำคัญ เพราะความต้องการเพิ่ม จากตลาดฟื้นตัว ขณะที่บริษัทยัง “ลงทุน” เพิ่มขึ้น 18% คิดเป็นมูลค่า 32.2 ล้านยูโร หรือราว 1,200 ล้านบาท เพื่อรองรับตลาดด้วย
ปี 2566 บริษัทยังตั้งเป้าเติบโตต่อ โดยทั่วโลกตั้งเป้าเติบโต 6-9% เช่นเดียวกับในประเทศไทยมองตลาดยังมีศักยภาพขยายตัว จากท่องเที่ยวฟื้นตัว จะส่งผลให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การผลิตมีการเติบโตขึ้น แม้ว่ายังมีไม่แน่นอนและท้าทายอย่างภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวก็ตาม
“เรามั่นใจศักยภาพเศรษฐกิจไทย และคาดหวังจะเติบโตไปพร้อมกัน”
ทว่าสิ่งที่ต้องจับตาครึ่งปีหลัง คือภาวะเศรษฐกิจที่อาจโตช้าลง การอยู่ระหว่างจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แต่ภาพรวมบริษัทยังมองบวก โดยมีแรงส่งสำคัญจากการท่องเที่ยว การส่งออกมีทิศทางที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันมองว่านโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างน่าน้ำใหม่เพื่อเติบโตหรือ S-Curve ต่างๆ จะพัฒนาต่อ ทำให้ธุรกิจมีความเชื่อมั่นเดินหน้าเช่นกัน
“แม้ประเทศไทยอยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แต่บริษัทยังมองภาพรวมเป็นบวก มองเห็นโอกาสเติบโต ส่วนนโยบายการขึ้นค่าแรงเป็น 450 บาทต่อวัน บ๊อซ ประเทศไทยมีพนักงานราว 1,500 คน มองว่าไม่กระทบ เพราะเราจ้างงานสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ แต่ยอมรับว่าในเชิงของซัพพลายเออร์ อาจต้องติดตามผลกระทบ”
ท่ามกลางกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว อาจกระทบบางหมวดสินค้าของบริษัท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัทยังเชื่อมั่นว่าสินค้าที่จะออกมาทำตลาดในปีนี้หลายรายการ จะยังเติบโตแข็งแกร่งเหมือนปี 2565 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทดำเนินธุรกิจในไทยครบ 100 ปี แผนเคลื่อนธุรกิจในอนาคตให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น ทั้งการมุ่งลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 15% ภายในปี 2573 ประหยัดการใช้พลังงาน 1.7 เทระวัตต์-ชั่วโมง(TWh) ซึ่งที่ผ่านมาทั่วโลกทำกว่า 4,000 โครงการ ปีนี้จะทำอีก 1,000 โครงการ เป็นต้น และเดินหน้าสู่การเป็นกลางทางคาร์บอน