ชี้ค้าปลีกภูธรไทยฮอต! โตยาว ย้ำต้องปรับให้เข้ายุคสมัย - ดึงเทคเสริมแกร่ง

ชี้ค้าปลีกภูธรไทยฮอต! โตยาว ย้ำต้องปรับให้เข้ายุคสมัย - ดึงเทคเสริมแกร่ง

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย จัดสัมมนาประจำปี ดึง 7 เซียนภูธรค้าปลีก เผยเบื้องหลังความสำเร็จสร้างค้าปลีกสายเลือดไทยโตแข็งแกร่ง ชี้เทรนด์ ผู้ประกอบการค้าปลีกภูธรยังโตยาวต่อเนื่อง 20-30 ปี ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พร้อมปรับนำเทคโนโลยีเสริมแกร่งธุรกิจ เพิ่มฐานลูกค้า 

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้จัดโครงการสัมมนาประจำปี (TRA Conference 2023) ครั้งที่ 2/2566 การค้ายุคยุค Post Modern Trade ไม่ใช่! แค่ค้าปลีกแบบ ออฟไลน์ และ ออนไลน์ หรือ Omni Channel แต่ต้องเป็นการค้าปลีก ที่ต้องฉีกกฎ ! 

พร้อมจัดเวทีเสวนา “7 เซียนค้าปลีกภูธร - Provincial Modernized Chain Store” ธุรกิจจะข้ามผ่าน Post Modern Trade สงครามค้าปลีกค้าส่งรูปแบบใหม่ของโลกได้อย่างไร ประกอบด้วย 7 ผู้ประกอบการแนวหน้าของไทย นำโดย กวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล จาก เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ หาดใหญ่, มิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ จาก ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ อุดรธานี, ประกอบ ไชยสงคราม จาก ยงสงวนกรุ๊ป ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง อุบลราชธานี, ทพ.วชิรวิชญ์ ศิริไชย จาก ศรีสมัยค้าส่ง ยะลา, จาตุรนต์ เหลืองสว่าง จาก สหแสงชัยซุปเปอร์สโตร์ พิจิตร, สุดชาย สิงห์มโน จาก แสงทองซูเปอร์เซ็นเตอร์ ระยอง และ ธนะพงศ์ พุฒิพิริยะ จาก ธนพิริยะ เชียงราย

สรุปประเด็นสำคัญในงานสัมมนาจากผู้ประกอบการทั้ง 7 ราย มีทั้งผู้ประกอบการค้าปลีกในต่างจังหวัดของไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีก รวมถึงสามารถเติบโตต่อเนื่องในช่วง 10 ปีข้างหน้า แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องมีการปรับรูปแบบให้ธุรกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดและความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดกับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้

รวมถึงผู้ประกอบการค้าปลีกในต่างจังหวัดไม่ได้มีความโดดเด่นเฉพาะเรื่องราคาสินค้าอย่างเดียว แต่มีความโดดเด่นในเรื่องการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วด้วย ทำให้ช่องว่างในการแข่งขันที่มีลดลง ระหว่างค้าปลีกรายใหญ่ในเมือง กับผู้ประกอบการค้าปลีกในต่างจังหวัด ที่มีความพร้อมปรับตัวตามสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว 

ขณะเดียวกันยังมีความพร้อมในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น อย่างอดีตอาจต้องใช้ระยะเวลาเป็น 10 ปีเพื่อปรับธุรกิจให้ใกล้เคียงใน ผู้ค้าปลีกรายใหม่ในเมือง แต่ในปัจจุบันใช้เวลาเพียง 1 ปี ก็สามารถปรับธุรกิจนำเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการขายสินค้า รวมถึงการทำกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างใกล้ชิด

ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเรื่องการค้าปลีก และรองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจค้าปลีกภูธรเป็นเทรนด์การเติบโตที่สำคัญในยุคต่อไป ต่อเนื่องไปในอีก 20-30 ปีข้างหน้า และเป็นผู้นำหลักในภาคค้าปลีกของไทย สำหรับกลุ่มห้างค้าปลีกรายใหญ่ จะมุ่งขยายไปเติบโตในตลาดต่างประเทศแทน

อีกสิ่งสำคัญที่เห็นอย่างชัดเจนคือ ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคธุรกิจค้าปลีกทำให้ช่องว่างการแข่งขันลดลง โดยภาพรวมค้าปลีกในปัจจุบัน แบ่งเป็น ภาคค้าปลีกสมัยใหม่ 32% ค้าปลีกภูธร 20% และที่เหลือเป็นผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี 

ทั้งนี้ ดร.ฉัตรชัย ได้สรุปไฮไลท์ประเด็นสัมมนาประกอบด้วย 

1. การ Disruption จะเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงเวลา 30-40 ปีต่อครั้ง จึงต้องติดตาม ในปัจจุบันกำลังเข้าสู่การมีเทคโนโลยีเข้ามาในตลาด จะต้องหาโอกาสในการขยายธุรกิจ

2. ช่องว่างการแข่งขันในตลาดที่ปรับลดลงต่อเนื่องระหว่างผู้ประกอบการายใหญ่ในเมืองกับผู้ประกอบการในต่างจังหวัด 

3. ผู้ประกอบการต้องติดตามเทรนด์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ควรมองข้ามเทรนด์ใหม่ๆ อย่างในปัจจุบันกระแส แพลนท์เบส หรือ โปรตีนจากพืชที่กำลังมาแรง

4. ทุกธุรกิจมีการแข่งขันเสมอ จึงต้องหาโอกาสที่จะพัฒนาและยกระดับ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจให้ดีต่อเนื่อง 

ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้มุมมองว่า เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคธุรกิจค้าปลีกมากขึ้น สอดคล้องกับด้านการตลาดที่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมขับเคลื่อน ทำให้การวางแผนตลาดแบบเดิม อาจไม่สามารถนำมาปรับใช้กับยุคปัจจุบันได้

เทรนด์การตลาดที่น่าสนใจและผู้ประกอบการควรนำไปปรับใช้ประกอบไปด้วย การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อร่วมวางกลยุทธ์วางแผนสร้างการเติบโต การนำ Data มาใช้สร้างประโยชน์แก่ธุรกิจอย่างสูงสุด และ เข้าใจเชคเมนต์ของกลุ่มลูกค้า ซึ่งต้องยอมรับว่าลูกค้าหนึ่งคนอาจมีหลายพฤติกรรมในตลาด