เดอเบลทุ่มงบ 100 ล้านบาท ผุดศูนย์กระจายสินค้า เจาะลูกค้านอกกลุ่มธุรกิจTCP
เดอเบล เปิด “ศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย” ชูทำเลยุทธศาสตร์ ขยายกำลังรองรับการเติบโตของคู่ค้า สานเป้าเติบโต 50% ใน 5 ปี ระหว่างปี 2566-2571
การขนส่งและกระจายสินค้าถือเป็น “กระดูกสันหลังของธุรกิจ” ในการส่งมอบสินค้าถึงร้านค้าเป้าหมาย เสิร์ฟผู้บริโภคปลายทาง “เดอเบล” ผู้ให้บริการด้านการกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP ต่อยอดกลยุทธ์ปลุกพลังธุรกิจเติบโต หรือ Growing เดินหน้าเปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ ที่ อ. วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา ภายใต้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพคลังสินค้า เตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตของ “คู่ค้า”ทางธุรกิจ ชูทำเลยุทธศาสตร์ บริการครบวงจร เชื่อมโยงออฟไลน์-ออนไลน์(offline - online: O2O) หนุนเครือข่ายหน่วยรถและร้านค้าที่แข็งแกร่ง
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งที่ 2 ของเดอเบล บนเนื้อที่ 11 ไร่ ประกอบด้วย 4 อาคาร จัดเก็บสินค้าได้ 5 ชั้น และพื้นคลังสินค้ารองรับน้ำหนัก 3 ตันต่อตารางเมตร(ตร.ม.) ตามมาตรฐานคลังสินค้า โดยรองรับสินค้าได้มากกว่า 10,000 พาเลต และบริษัทได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว
ทั้งนี้ ศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าว ยังมีบทบาทช่วยยกระดับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ให้ทันสมัยและครบวงจร ผ่านคลังสินค้าอัจฉริยะและการให้บริการในรูปแบบออมนิแชนเนล(omnichannel) เชื่อมโยงทั้งช่องทางจำหน่ายออฟไลน์และออนไลนให้แก่คู่ค้าแบบไร้รอยต่อ
นอกจากศูนย์กระจายสินค้าของเดอเบล จะเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับเทรนด์การเติบโตของการค้าขายสินค้าผ่านออมนิแชนแนลแล้ว บริษัทยังมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้านอกเครือหรือ Non-TCP รายใหม่ๆ มากขึ้น จากปัจจุบันมี 13 ราย และมีสัดส่วน 25% และกลุ่มธุรกิจ TCP 75%
“แนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมีการขยายตัวต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว และการขยายธุรกิจของเดอเบล เชื่อมั่นว่าจะช่วยขับเคลื่อนตลาดขนส่งให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และบริษัทตั้งเป้าขยายการเติบโต 2 เท่า”
เดอเบลยังคงขนส่งและกระจายสินค้าหลักกลุ่มธุรกิจTCP เช่น กระทิงแดง สปอนเซอร์ ฯ
สำหรับจุดเด่นของศูนย์กระจายสินค้าเดอเบล วังน้อย ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ การคมนาคมที่สะดวก เชื่อมต่อทั้งกรุงเทพฯ และภูมิภาคอื่นๆของประเทศไทย สามารถขนส่งสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง สู่สาขาของเดอเบลทั่วประเทศจำนวน 22 แห่ง รองรับสินค้ากว่า 54,000 พาเลต นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีมาตรฐานสากลที่ช่วยส่งเสริมงานต่างๆ ของระบบคลังสินค้าให้มีการจัดการที่แม่นยำ และติดตามได้แบบเรียลไทม์ เช่น WMS, DMS และ ePOD
ศูนย์ฯ ยังตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนการก่อสร้างคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ทั้งมลพิษด้านอากาศ และเสียง ตลอดจนลดความแออัดในชุมชนเมือง ใช้รถ Forklift ไฟฟ้า บริษัทยังมีแผนจะใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้าหรืออีวีด้วย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบ รวมถึงการจัดระบบการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนทุกกระบวนการผลิต
ด้านกลยุทธ์การทำตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย บริษัทเน้น “เข้าใจ – เข้าถึง” สร้างแต้มต่อการแข่งขัน ประกอบด้วย 1.การมีความเชี่ยวชาญ ให้บริการคู่ค้าได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น การรับสินค้า การกระจายสินค้า การให้คำปรึกษา วางแผนการตลาด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และวางแผนที่แม่นยำอย่างมืออาชีพ ช่วยให้คู่ค้าทำตลาดและขยายฐานไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
สราวุฒิ อยู่วิทยา แม่ทัพใหญ่กลุ่มธุรกิจTCP
2.มีความพร้อมรองรับความต้องการของลูกค้ารายใหม่ๆ ที่จะเข้ามาใช้บริการใหม่ๆ ซึ่งครอบคลุมทั้ง บริการคลังสินค้า บริการจัดส่ง เรียกว่าครบครันหรือ Fulfillment และบริการ Co-Packing ตอบโจทย์เทรนด์การเติบโตของช่องทางออมนิแชนเนล 3.มีช่องทางการจัดจำหน่าย มีหน่วยรถและทีมรถที่หลากหลาย ช่วยกระจายสินค้าได้กว้างและรวดเร็ว สร้างประสิทธิภาพสูงสุดแก่ลูกค้า โดยเฉพาะการกระจายสินค้าใหม่ หรือ NPD ที่เดอเบลสามารถกระจายได้ทั่วถึงทั้งประเทศภายในระยะเวลาเพียง 12 วัน เข้าถึงร้านค้ากว่า 140,000 แห่งทั่วประเทศ
“ตลอดระยะเวลา 21 ปี เดอเบล มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร สร้างแต้มต่อในการแข่งขัน ยกระดับคู่ค้าทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และยังเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม จากการศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ บริษัทต้องการผลักดันธุรกิจให้เติบโต 2 เท่า มุ่งเจาะลูกค้าใหม่ๆ Non-TCP มากขึ้น จากปีก่อนฐานลูกค้าสร้างรายได้ให้บริษัทเติบโตกว่า 20%”