สงกรานต์ 67 'กลุ่มเซ็นทรัล' ชวนใช้ 'ผ้าขาวม้าไทย' ดันสินค้าชุมชนดังไกลทั่วโลก
"กลุ่มเซ็นทรัล" ชวนคนไทยและต่างชาติใช้ "ผ้าขาวม้าไทย" สาดความสุขรับสงกรานต์ 2567 ดันสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยดังไกลไปทั่วโลก สร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
"ผ้าขาวม้า" ถือเป็นอาภรณ์สารพัดประโยชน์ที่คนไทยใช้ในชีวิตประจำวันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ใช้นุ่งห่ม เช็ดตัว บังแดด ปูโต๊ะ และอื่นๆ นอกจากนั้นยังถือเป็นสินค้าท้องถิ่นที่สามารถสร้างรายได้ในชุมชน ทำให้รัฐบาล "เศรษฐา ทวีสิน" พยายามเร่งผลักดันภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย ด้วยการเพิ่มมูลค่าให้สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
เช่นเดียวกับ กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือที่พร้อมขานรับนโยบาย ผลักดันสินค้าท้องถิ่นส่งเสริมรายได้ชุมชนท้องถิ่น ด้วยการรับซื้อผ้าขาวม้าจากชุมชนนำมาจำหน่าย และยังนำมาพัฒนาออกแบบเป็นสินค้าที่มีดีไซน์สวยงาม ทันสมัย หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านโครงการ "ฮักไทย เสน่ห์วิถีไทยสไตล์ใหม่ Thainess Station สินค้าไทย ร่วมใจเพื่อชุมชน"
สำหรับโครงการดังกล่าว เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ ให้เกียรติมาเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าที่เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีบุษบา จิราธิวัฒน์ ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร กลุ่มเซ็นทรัล และอัจฉรา วิสุทธิวงศ์รัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด สื่อสารองค์กรและความยั่งยืน กลุ่มเซ็นทรัล ให้การต้อนรับ พร้อมชวนคนไทยและต่างชาติใช้ "ผ้าขาวม้าไทย" รับ เทศกาลสงกรานต์ 2567 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาอันดีในการประชาสัมพันธ์ และดันสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยไปสู่สายตาชาวโลก
ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ รับซื้อสินค้าไทยจากหลายชุมชมมาจำหน่าย อาทิ ผลิตภัณฑ์จาก ผ้าขาวม้า เครื่องจักสานจากกระจูด และผ้าคราม โดยได้มีการรับซื้อผ้าขาวม้าจาก 10 ชุมชนทั่วประเทศ ประกอบด้วย 1. ชุมชน กัลยาผ้าทอ จ. สุพรรณบุรี 2. อิมปานิ จ.ราชบุรี 3. นครราชสีมา โอทอป จ.นครราชสีมา 4. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านดอนพะทาย จ.นครพนม 5. วิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทยทรงดำบ้านหัวเขาจีน จ. ราชบุรี 6. วิสาหกิจชุมชนทอผ้าพุเตย จ.เพชรบูรณ์ 7. ผ้าขาวม้าจำปีสิรินธร จ.ลพบุรี 8. วิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี จ.ตรัง 9. ชุมชนผ้าย้อมครามบ้านกุดจิก จ.สกลนคร และ 10. ผู้ประกอบการ OTOP สมุทรปราการ
นอกจากนี้ ยังมีการวางจำหน่ายผ้าขาวม้าจากชุมชนกระจายไปยังศูนย์การค้าทั่วทุกภูมิภาคกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล 39 แห่ง, โรบินสันไลฟ์สไตล์ 3 แห่ง, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล 6 แห่ง และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 2 แห่ง รวม 50 แห่ง เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีกในอนาคต นอกจากนี้ยังจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าในยุโรปของเครือกลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ ห้างเซลฟริดเจส (Selfridges) ประเทศอังกฤษ, รีนาเชนเต (Rinascente) ประเทศอิตาลี, คาเดเว (KaDeWe) ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ ติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊ก Central Group หรือเว็บไซต์ Central Group
โครงการ "ฮักไทย เสน่ห์วิถีไทยสไตล์ใหม่ Thainess Station สินค้าไทย ร่วมใจเพื่อชุมชน" ได้รับการต้อนรับที่ดีจากประชาชนและนักท่องเที่ยว มีการจับจ่ายซื้อสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยจาก ผ้าขาวม้า และผลิตภัณฑ์จาก กระจูด ที่มาจากฝีมือชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็น หมวก กระเป๋า ตุ๊กตาช้าง เสื้อเชิ้ต กางเกง ซึ่งมีการนำมาดีไซน์ให้มีความร่วมสมัยสามารถนำมาใช้ได้ในทุกวัน เพื่อนำไปเป็นของที่ระลึก และใช้ในช่วง เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นประเพณีไทยที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก ไม่ว่าจะเป็นการละเล่น ทำบุญตักบาตร หรือรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากโครงการดังกล่าวแล้ว กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือได้มีการสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ "เซ็นทรัล ทำ : ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ" โครงการขับเคลื่อนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัล ที่มีความตั้งใจพัฒนาสินค้าท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้น และรักษาภูมิปัญญาชาวบ้าน ต่อยอดเพิ่มมูลค่าของสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่าย ทำให้สามารถเติบโตแข่งขันในตลาดสากลได้ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไทยและชาวต่างชาติที่มาจากหลากหลายภูมิภาค ทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป