‘เอสบีโอ’ ติดสปีดรุกตลาด ดึงพาร์ทเนอร์ สร้างมาสคอต ดันธุรกิจเครื่องครัวโต

‘เอสบีโอ’ ติดสปีดรุกตลาด ดึงพาร์ทเนอร์ สร้างมาสคอต ดันธุรกิจเครื่องครัวโต

เจาะแผน เอสบีโอ เร่งเครื่องรุกตลาดเครื่องครัวหนัก เร่งดึงพาร์ทเนอร์ สร้างมาสคอต ชูมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง เจาะกลุ่มลูกค้า หวังดันตลาดเครื่องครัว-เครื่องใช้ไฟฟ้าไทยโตแกร่ง

ส่องธุรกิจเครื่องครัวของประเทศไทย มีมูลค่าใกล้เคียง 1 หมื่นล้านบาท เป็นตลาดที่มีผู้เล่นทั้งรายใหญ่และรายเล็ก ทั้งแบรนด์จากประเทศไทยและต่างประเทศ โดย บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด เป็นหนึ่งผู้เล่นสำคัญ ที่อยู่ในตลาดมาร่วม 35 ปีแล้ว ซึ่งในปี 2567 ท่ามกลางตลาดที่มีผู้เล่นรายใหม่ๆ จากจีนเข้ามาร่วมชิงฐานลูกค้า แต่ในมุมมองของแบรนด์ ประเมินว่า ธุรกิจกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ จากสถานการณ์ที่ไม่เหมือนเดิม ต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ทุกแบรนด์ต้องเร่งปรับตัว เพื่อสร้างการเติบโตให้ได้ 

“กฤตนัน สนธิจิรวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด หรือ เอสบีโอ ผู้นำเข้าและทำตลาดแบรนด์ชุดเครื่องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้า เทคโนแก๊ส และเทคโนพลัส จากยุโรป ฉายภาพธุรกิจเครื่องครัว รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัว ปี 2567 ตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรง

รวมถึงมีปัจจัยที่ท้าทายภาคธุรกิจกับทั้ง ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้สินค้าเครื่องครัวนำเข้ามีราคาสูงขึ้น รวมถึงมีปัจจัยในประเทศจากกำลังซื้ออ่อนแรงลง ดังนั้น การปรับขึ้นราคาสินค้าจึงไม่ใช้คำตอบที่ถูกต้อง 

หากประเมินภาพรวมองค์กรแม้อยู่ในตลาดมายาวนาน 35 ปี มองว่าเป็นปีที่ไม่ง่ายในการทำธุรกิจ ที่ต้องรับมือความท้าทายใหม่ๆ  สิ่งสำคัญคือ การเร่งทำตลาดในเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะการผนึกพาร์ทเนอร์ร่วมมือขยายช่องทางจำหน่ายสินค้า อย่างแบรนด์ คิคูซิน่า แกลเลอเรีย ที่เจาะตลาดพรีเมียม ได้ขยายเปิดช่องทางจำหน่ายในภูเก็ตเพื่อร่วมทดลองตลาดแล้ว

รวมถึงมุ่งขยายตลาดบ้านโครงการ ที่มีราคา 50 ล้านบาท มากขึ้น เนื่องจากเป็น เซ็กเมนต์ ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ส่วนตลาดอื่นๆ ผู้ประกอบการยังชะลอเปิดโครงการใหม่ เพื่อประเมินสถานการณ์ต่างๆ รอบด้าน 

‘เอสบีโอ’ ติดสปีดรุกตลาด ดึงพาร์ทเนอร์ สร้างมาสคอต ดันธุรกิจเครื่องครัวโต

แนวรุกเสริมแกร่งให้แก่องค์กรคือ การลงทุนเทคโนโลยีและดึงเทคโนโลยีใหม่ๆ การใช้เอไอ มาร่วมบริหารจัดการต้นทุน และนำเสนอสินค้าให้ดีที่สุด ทำให้สามารถคงราคาสินค้าไว้เท่าเดิมได้ โดยที่ผ่านมา ต้นทุนขึ้นไปแล้ว 5% รวมถึง มุ่งเจาะตลาดผ่านออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงเน้นนำเสนอสินค้า ที่ตรงกับฐานลูกค้า จึง ได้นำเสนอสินค้า เทคโนแก๊ส เตาตั้งพื้น รุ่นพิเศษ ที่มีเพียง 20 ตัวในโลก ดีไซน์มาเพื่อกลุ่มลูกค้าในไทยเท่านั้น 

‘เอสบีโอ’ ติดสปีดรุกตลาด ดึงพาร์ทเนอร์ สร้างมาสคอต ดันธุรกิจเครื่องครัวโต

“ในปีนี้การทำธุรกิจมีความยากมากขึ้น จากโจทย์ที่เปลี่ยนแปลงไป และเห็นสัญญาณกำลังซื้อที่ชะลอตัวอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมา บริษัทต้องปรับแผน รุกทำตลาดเชิงรุก พร้อมปรับเปลี่ยนแผนการตลาดอย่างรวดเร็ว สินค้าไหนขายดี ขายไม่ดี ต้องรีบเปลี่ยน ซึ่งแผนในปีนี้ก็แตกต่างจากช่วงโควิด เพราะในปีที่เกิดเหตุการณ์โรคระบาด เรายังสามารถคาดได้ว่า จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ในปีนี้ ไม่สามารถคาดได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นมากระทบ” 

นอกจากนี้อีกจุดที่ต้องให้ความสำคัญคือ บริการหลังการขาย ที่พร้อมดูแลให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด ส่วนช่องทางจำหน่ายสินค้ามีอยู่ประมาณ 250 จุดในทั่วประเทศ 

“แบรนด์จีนในกลุ่มเครื่องครัวมีเข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว แต่ส่วนใหญ่เน้นตลาดแมส ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อบริษัท ที่เน้นตลาดกลางและบน เป็นหลัก” 

ดึงมาสคอต มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
“สรวิช สนธิจิรวงศ์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานพัฒนาธุรกิจและจัดซื้อ บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด หรือ เอสบีโอ เสริมว่า แผนการตลาดได้มุ่งแนวคิดสร้างความสนุกสนานในการเข้าครัวให้แก่ลูกค้า หรือ อีโมชั่นนอล มาร์เก็ตติ้ง ทำให้ได้ต่อยอดไปสู่การจัดทำ มาสคอต เป็นครั้งแรกในชื่อ “เทคโน” เพื่อร่วมสื่อสารและสร้างคาแรกเตอร์ใหม่ให้ลูกค้าจดจำ

รวมถึงได้จัดทำทำ มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง ผ่านเพลงที่บริษัทได้พัฒนาขึ้นมาเป็นครั้งแรก มุ่งขยายกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ที่มีอายุน้อยลง อีกทั้งเน้นจัดกิจกรรมการตลาดที่ถี่ยิ่งขึ้น

‘เอสบีโอ’ ติดสปีดรุกตลาด ดึงพาร์ทเนอร์ สร้างมาสคอต ดันธุรกิจเครื่องครัวโต  

“แผนการตลาดในปีนี้ต้องผสมผสานหลายกลยุทธ์ มาร่วมวางแผนสร้างแบรนด์ โดยผลจากการมุ่งขยายฐานกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มาร่วมประมาณ 3-4 ปี ทำให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่เด็กลง มีกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ช่วงอายุ 25-35 ปี จากเดิมมีฐานลูกค้าอายุ 40 ปีขึ้นไป” 

ทั้งหมดจากแผนที่วางไว้ ทำให้ เอสบีโอ ประเมินว่าจะสามารถสร้างผลประกอบการในปี 2567 ขยายตัวในหลักเดียว พร้อมร่วมกระตุ้นตลาดเครื่องครัวของประเทศไทยให้คึกคักมากขึ้น แต่ทั้งนี้หากในครึ่งปีหลังมีปัจจัยใหม่ๆ มากระทบ อาจจะสร้างยอดขาย ใกล้เคียงกับปี 2566 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท