ททท. ผนึกพันธมิตร ดึงคนฝรั่งเศสหนี ‘โอลิมปิก 2024’ เที่ยวไทย หนุนยอด 6.3 แสนคน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้ากระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสรับช่วงการจัดแข่งขัน"โอลิมปิก 2024"ฤดูร้อนครั้งที่ 33 (Paris 2024) ณ ประเทศฝรั่งเศส โดยช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2567 ได้ร่วมกับพันธมิตร Carrefour Voyages จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย Joint Promotion ผ่านบริษัทตัวแทนกว่า 115 แห่ง และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยผ่านสื่อออนไลน์และออฟไลน์ หวังดันยอดขายแตะ 2,000 แพ็กเกจ ในเดือนสิงหาคมนี้

รวมทั้งกระตุ้นตลาดร่วมกับพันธมิตรอื่นๆ ต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง อาทิ บริษัทนำเที่ยว Voyage Privé และ Oovatu สายการบิน Singapore Airline and Singapore Tourism Board เพื่อเดินหน้าบรรลุเป้าหมายปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวฝรั่งเศส 632,000 คน-ครั้ง และสร้างรายได้ 42,900 ล้านบาท

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ททท. กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดระยะไกลมีแนวโน้มสดใสและเติบโตได้ดี จากการคาดการณ์ของ ททท. ตลาดระยะไกลจะสามารถเพิ่มจำนวนและสร้างรายได้ได้สูงกว่าปี 2562 ททท. จึงเร่งเครื่องเดินหน้ากระตุ้นกลุ่มนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรปอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง 2567 โดยใช้โอกาสของการจัดแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 33 (Paris 2024) ณ ประเทศฝรั่งเศส ที่จะเข้ามาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญการต่อยอดดึงดูดใจนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสออกเดินทางมายังประเทศไทยในช่วงก่อนการจัดโอลิมปิกไปจนถึงหลังจบการแข่งขัน

ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร

โดยช่วงวันที่ 20 พฤษภาคม-16 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ททท.สำนักงานปารีส ได้ร่วมกับพันธมิตร Carrefour Voyages บริษัทนำเที่ยวที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศสประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายแพ็กเกจท่องเที่ยวประเทศไทยผ่านบริษัทตัวแทนนำเที่ยวทั้งหมด 115 แห่ง ซึ่งแพ็กเกจท่องเที่ยวดังกล่าว กำหนดราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,469 ยูโร (EUR)  ระยะเวลา 17 วัน 14 คืน ประกอบด้วยบัตรโดยสารเครื่องบินเส้นทางระหว่างประเทศและที่พัก และราคาเริ่มต้น 1,799 ยูโร (EUR)  สำหรับแพ็กเกจท่องเที่ยวรวมบัตรโดยสารเครื่องบินเส้นทางระหว่างประเทศ และทริปท่องเที่ยวเส้นทางภาคเหนือ และราคาเริ่มต้น 1,849 ยูโร (EUR)  สำหรับแพ็กเกจท่องเที่ยวรวมบัตรโดยสารเครื่องบินเส้นทางระหว่างประเทศ และทริปท่องเที่ยวเส้นทางภาคเหนือและภูเก็ต

โดยบริษัทได้ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่าง ๆ อาทิ โปสเตอร์ วิดีโอประชาสัมพันธ์ประเทศไทยความยาว 1 นาที เปิดให้บริการเสียงรอสายโทรศัพท์ Call Center ของ Carrefour Voyages เกี่ยวกับประเทศไทยตลอด 24 ชั่วโมง จัดทำข้อมูลและเสนอขายแพ็กเกจของประเทศไทย ผ่านช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์รูปแบบต่าง ๆ รวมถึงจัดอบรม Online ผ่านระบบ Webex ให้แก่พนักงานของบริษัทตัวแทนนำเที่ยว Carrefour Voyages เพื่อช่วยกระตุ้นการขายในช่วง Joint Promotion ทั้งนี้ คาดว่ากิจกรรมส่งเสริมการตลาดดังกล่าว จะกระตุ้นให้มีผู้สนใจซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวไทยอย่างน้อย 2,000 แพ็กเกจ ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2567

นอกจากนี้ ททท. จะเพิ่มแรงด้วยกิจกรรมส่งเสริมการตลาด Joint Promotion ร่วมกับพันธมิตรบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ ได้แก่

1. จัดทำ Joint Promotion ร่วมกับบริษัทนำเที่ยว Voyage Privé ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 – 9 กันยายน 2567 โดยเสนอขายแพ็กเกจท่องเที่ยวประเทศไทยเชื่อมโยงกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่น่าสนใจต่าง ๆ ตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย อาทิ เรียนมวยไทยที่พัทยา จ.ชลบุรี ดำน้ำที่เกาะสมุยและเกาะต่างๆ ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี  trekking เดินป่าที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา Flying Gibbons จ.เชียงใหม่ เป็นต้น

2. จัดทำ Joint Promotion ร่วมกับสายการบิน Singapore Airline and Singapore Tourism Board ระหว่างวันที่ 1-24 กรกฎาคม 2567 โดยเป็นการเสนอขายบัตรโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษและการ Stopover ที่สิงคโปร์

และ 3. จัดทำ Joint Promotion ร่วมกับบริษัทนำเที่ยว Oovatu ซึ่งจะนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยในช่วง Green Season โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ผ่านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ในโรงแรมระดับบนจาก 5 ดาวถึง 5 ดาว Luxury อาทิ The Slate Phuket, The Sarojin Khao Lak, Six Senses Yao Noi และ Trisara Phuket ซึ่งแต่ละแห่งจะแนะนำร้านอาหารตั้งแต่ระดับ Gastronomy และ Michelin Star ในราคาประมาณ 3,565 ยูโร (EUR)  ต่อคน อาทิ Black Ginger, The Edge, Select Hilltop Reserve และ From Farm to Table โดยมีกำหนดออกเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ กิจกรรมส่งเสริมการตลาดดังกล่าวได้รับความสนใจ จากกลุ่มนักท่องเที่ยวและมีจำหน่ายแล้วทั้งสิ้น 1,274 pax สร้างรายได้ประมาณ 4.3 ล้านยูโร (EUR) หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 168.8 ล้านบาท

ตลาดนักท่องเที่ยวฝรั่งเศส เป็นตลาดคุณภาพที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 25 กรกฎาคม 2567 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสสะสม 420,446 คน-ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นครั้งแรก ร้อยละ 56 และเดินทางท่องเที่ยวซ้ำ ร้อยละ 44 ซึ่งมีระยะพำนักเฉลี่ย 17.88 คืน และใช้จ่ายเฉลี่ย 66,796 บาทต่อคนต่อทริป สำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และเชียงใหม่ ตามลำดับ

ทั้งนี้ ททท. เตรียมขยายฐานตลาดจากกลุ่ม Family และ Active Senior สู่กลุ่ม Young Professional และ Remote Worker ที่ชื่นชอบการแสวงหาอัตลักษณ์และเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตของท้องถิ่น ร่วมกับกลุ่มเพื่อนและคนรัก ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนของทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การเข้าร่วมงานส่งเสริมการขาย Trade Show International & French Travel Market 2024 และการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบิน อาทิ สายการบิน CONDOR ที่เตรียมจะเปิดให้บริการเส้นทางบิน แฟรงเฟิร์ต (เยอรมนี)-กรุงเทพฯ ความถี่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มให้บริการ 22 กันยายน 2567 เป็นต้นไป และเส้นทางบินตรง แฟรงเฟิร์ต (เยอรมนี)-ภูเก็ต ความถี่ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มให้บริการ 21 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ซึ่งจะออกเดินทางจากกรุงปารีส ลียง บอร์โดซ์ นีซ ตูลูส และมาร์กเซย ฝรั่งเศส โดยสายการบิน Lufthansa และการเปิดให้บริการเส้นทางบินของสายการบิน ITA เส้นทางกรุงปารีส ฝรั่งเศส-กรุงเทพฯ ความถี่ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มให้บริการ 16 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว ททท. คาดว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสให้เติบโตบรรลุเป้าหมาย 632,000 คน-ครั้ง และสร้างรายได้ 42,900 ล้านบาท ในปี 2567