TLI - โมเมนตัมของกำไรอ่อนแอลงทั้ง qoq และ yoy
TLI รายงานกำไรสุทธิใน 2Q22 ลดลงมาก 47% qoq และ 23% yoy เหลือ 2 พันล้านบาท โดยกำไรสุทธิในงวด 1H22 อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท ลดลง 2% hoh และคิดเป็น 58% ของประมาณการกำไรปี FY22 ของเรา
โมเมนตัมกำไรที่แผ่วลงจากฐานสูงของกำไรจากการลงทุนในตราสารทุน
สาเหตุหลักของผลประกอบการที่มีการปรับตัวลดลง qoq เพราะฐานกำไรที่สูงเนื่องจากมีบันทึกกำไรจากการลงทุนในไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะกำไรจากการลงทุนในตราสารทุน ทั้งนี้ TLI บันทึกกำไรจากการลงทุนเพียง 441 ล้านบาทใน 2Q22 ลดลง 80% qoq และ 39% yoy เทียบจาก 2.2 พันล้านบาทใน 1Q22 และ 725 ล้านบาทใน 2Q21 ทั้งนี้ นอกจากกำไรจากการลงทุนที่ลดลงแล้ว ผลประกอบการที่ลดลง yoy ยังเป็นเพราะมีค่าใช้จ่าย underwriting เพิ่มขึ้นจากการจ่ายผลประโยชน์และค่าสินไหมเพิ่มที่ขึ้น 22% yoy เพราะมีกรมธรรม์ครบอายุเพิ่มขึ้น และมีการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น
APE เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมี VONB margin ที่สูง
ในแง่ของค่าเบี้ยจากการขายกรมธรรม์ใหม่หรือ APE ของ TLI สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 23% ใน 1H22 แตะระดับ 6.4 พันล้านบาท ในขณะที่ VONB margin เพิ่มขึ้น 0.4 ppt ซึ่งอยู่ในระดับสูงที่ราว 52% จากการปรับกลยุทธ์มาเน้นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ยน้อยลง ทั้งนี้ TLI ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาด APE อันดับ #3 ในอุตสาหกรรมไว้ได้ที่ 14.2% ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 13.7% ในปีที่แล้ว
ปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ต (portfolio risk)
รายได้จากการลงทุนใน 2Q22 เพิ่มขึ้น 2% qoq และ 8% yoy จากพอร์ตการลงทุน ที่ขยายตัวโดยเฉพาะการลงทุนในตราสารหนี้ในภาวะที่ดอกเบี้ยอยู่ในขาขึ้น โดยสัดส่วนการลงทุนในพอร์ตตราสารหนี้เพิ่มขึ้นจาก 79% เป็น 82% ในขณะที่การลงทุนในตราสารทุนลดลงเหลือ 11% จาก 14% ของพอร์ตการลงทุนรวม เนื่องจากมีการขายทำกำไรไปบางส่วน และลดความเสี่ยงของพอร์ต (portfolio risk) ลง