มกอช. เล็งยกระดับด่านบ้านฮวก นำเข้า – ส่งออกสินค้าเกษตรไปจีน
มกอช. ลงพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก เตรียมยกระดับเป็นจุดนำเข้า-ส่งออกสินค้าผลไม้เพิ่มเติมภายใต้พิธีสาร ไทย –จีน สู่ด่านเหมิ่งคัง รอตรวจประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม หวังช่วยลดความแออัดด่านเชียงของ
นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดพะเยาเข้าประชุมหารือร่วมกับ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด่านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพะเยา กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกงสุล(ฝ่ายเกษตร) ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกวางโจว ร่วมประชุมหารือ ณ อุทยานแห่งชาติภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา และผ่านระบบการประชุมทางไกลออนไลน์ Zoom Cloud Meeting
โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการพิจารณาเสนอจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวกเป็นจุดนำเข้า-ส่งออกสินค้าผลไม้เพิ่มเติมภายใต้พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้รับการลงนามระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนไปเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564
ทั้งนี้ นายพิศาล พร้อมคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวกหรือด่านพรมแดนบ้านฮวก-กิ่วหก ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนระหว่างประเทศไทยกับด่านสากลปางมอน เมืองคอบ แขวงไชยะบุลี ประเทศลาว โดยเส้นทางดังกล่าวมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่สามารถเชื่อมไทยเข้าสู่ด่านเหมิ่งคัง ซึ่งเป็นด่านสากลสำคัญอีกแห่งในมณฑลยูนนานของจีน อันจะช่วยเพิ่มช่องทางขนส่งสำหรับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าผลไม้ไทยเพิ่มจากด่านโม่ฮานด้วย
จากนั้นได้หารือและรับทราบข้อมูลจากผู้ปฏิบัติงานจริง ณ ด่านศุลกากรเชียงของประจำบ้านฮวก และด่านกักกันสัตว์ระหว่างประเทศ (บ้านฮวก) เพื่อรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงปัญหา/อุปสรรคเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นในอนาคต (อีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยผลักดันศักยภาพในอนาคตของจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวกคือด่านสากลปางมอนซึ่งมีศักยภาพในการขนสินค้าเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนได้)
อนึ่ง หากด่านมีความพร้อมรองรับเป็นจุดตรวจสอบสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อนำเข้า-ส่งออก ก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการเพิ่มช่องทางแลกเปลี่ยนสินค้าโดยเฉพาะผลไม้ไทยที่มีความนิยมสูงในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนได้มากขึ้น พร้อมกันนั้นยังเป็นการลดความแออัดด้านโลจิสติกส์ในช่วงฤดูผลไม้ส่งออกไปจีนในเขตภาคเหนือที่ซึ่งปัจจุบันนี้ใช้ด่านชายแดนเชียงของเป็นหลักตามพิธีสารฯ ให้มีด่านนำเข้า-ส่งออกอื่นเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ตาม จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวกยังคงมีข้อจำกัดด้านภูมิศาสตร์กล่าวคือบริเวณโดยรอบมีภูเขาล้อมรอบ และทางลาดชันซึ่งส่งผลกระทบต่อการคมนาคม แต่ทางด่านก็มีแผนที่จะขยายพื้นที่เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อรับการตรวจประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA)
ปัจจุบัน สินค้าที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวกนั้น เป็นการค้าขายระหว่างไทย-ลาวเท่านั้นโดยสินค้านำเข้า-ส่งออกที่สำคัญประกอบด้วย สินค้านำเข้าจากประเทศลาว ที่สำคัญ ได้แก่ หินบดปูน ผ้าปักทอ เศษเหล็ก แร่แบไรต์ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (ตามฤดูกาล) ส่วนสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศลาว ได้แก่ น้ำมันเบนซิน/ดีเซล เครื่องอุปโภค วัสดุก่อสร้าง น้ำมันหล่อลื่น และอาหารสัตว์