สสว. มัดรวมสิทธิประโยชน์งบปี 65 หนุนผู้ประกอบการ SME ยุค Next Normal

สสว. มัดรวมสิทธิประโยชน์งบปี 65 หนุนผู้ประกอบการ SME ยุค Next Normal

สสว. เผยความคืบหน้าในการผนึกหน่วยงานพันธมิตร ผลักดันสิทธิประโยชน์เพื่อการประกอบการ ปีงบประมาณ 2565 เสริมแกร่งผู้ประกอบการหลังประสบผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในงานแถลงข่าว วันนี้ (6 ก.ย. 2565) กิจกรรมเผยแพร่สิทธิประโยชน์เพื่อการประกอบการ ปีงบประมาณ 2565 ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจประเทศไทย ที่มีผู้ประกอบการได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว และเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ

ในขณะเดียวกันรัฐบาลเองตระหนักถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ในยุค New Normal และ Next Normal โดยมี สสว. เป็นหน่วยงานหลักซึ่งมีพันธกิจในการบูรณาการ และผลักดันการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม MSME ให้พลิกฟิ้น อยู่รอด และเติบโต

 

ทั้งนี้ การส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ MSME ในมิติต่างๆ นำมาสู่ “งานพัฒนาสิทธิประโยชน์และผลักดันให้เกิดขึ้นจริงเพื่อการประกอบการ” โดยมียุทธศาสตร์การดำเนินงาน 4 ด้าน คือ การยกระดับบูรณาการ MSME ของประเทศด้วย Big Data, การพัฒนากลไกการส่งเสริมให้เข้าถึง MSME และเศรษฐกิจชุมชน, การสร้างสังคมผู้ประกอบการให้เติบโตและก้าวสู่สากล และการเพิ่มศักยภาพองค์กรให้มีสมรรถนะสูง 

โดยหนึ่งในนโยบายสำคัญในปีงบประมาณ 2565 ที่ สสว. ได้ริเริ่มดำเนินการไปแล้วคือ การสนับสนุนให้ MSME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ด้วยการพัฒนาระบบ SME-GP เป็นการขึ้นทะเบียนบัญชีรายการสินค้าและบริการ และบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการเพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยรวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการและรายการสินค้าและบริการของ SME เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในพื้นที่มีโอกาสได้รับการจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานภาครัฐในแต่ละจังหวัด 

สร้างการกระจายรายได้จากภาครัฐสู่ผู้ประกอบการที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1.3 ล้านบาทต่อปี และเสริมสร้างให้เกิดมูลค่าการซื้อขายระหว่างหน่วยงานภาครัฐและ SME ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันด้านราคาได้มากขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการได้รับการพัฒนาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆจากภาครัฐ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจในระยะยาว

นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS (Business Development Service) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ ที่ผู้ประกอบการจะสามารถเลือกรับบริการหรือรับการพัฒนาจากผู้ให้บริการทางธุรกิจระดับชั้นนำของประเทศที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจของผู้ประกอบการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดย สสว.จะอุดหนุนค่าใช้จ่ายให้แก่ SME แบบรวมจ่ายในสัดส่วน 50-80% 

อย่างไรก็ตาม นอกจากโครงการขึ้นทะเบียน SME-GP และโครงการ BDS แล้ว สสว. ไม่หยุดยั้งที่จะคิดค้นโครงการหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่จะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการให้รอดพ้นขากสถานการณ์วิกฤตเพียงเท่านั้น หากแต่ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้เติบโต แข็งแกร่ง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และสามารถแข่งขันได้ในระดับสากลได้ในอนาคต