ดาวโจนส์พุ่ง 377 จุดได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงก์
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์(9ก.ย.)พุ่ง 377 จุด โดยตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้เพราะได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งจะได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 377.19 จุด หรือ 1.19% ปิดที่ 32,151.71 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ทะยาน 1.53% ปิดที่ 4,067.36 จุด
ดัชนีแนสแด็กบวก 2.11% ปิดที่ 12,112.31 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดบวกเกือบ 200 จุดวานนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งจะได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ร่วงลงในการซื้อขายช่วงแรกวานนี้ ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดมีความมุ่งมั่น "อย่างแรงกล้า" ในการควบคุมเงินเฟ้อ โดยเฟดจะดำเนินการต่อไปจนกว่าภารกิจจะสำเร็จ และการยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้
นอกจากนี้ จำนวนคนว่างงานที่ต่ำกว่าคาดของสหรัฐยังทำให้ตลาดกังวลว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
ตลาดจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนส.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 13 ก.ย. โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายในการบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 14% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%