นบมส. ไฟเขียวเดินหน้าประกันรายได้มันสำปะหลัง ปี 4
นบมส.ไฟเขียว ประกันรายได้มันสำปะหลัง ปี 4 พร้อมมาตรการคู่ขนาน คงเงื่อนไขเดิมประกันราคา 2.50 บาทต่อกิโลกรัม จ่ายเงินส่วนต่าง 12 งวด เคาะมาตรการเสริม เผยข่าวดีฟิลิปปินส์จะซื้อมันเพิ่ม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง(นบมส.) ครั้งที่ 2/2565 กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังปี 4 โดยเงื่อนไขเหมือนกับ 3 ปีที่ผ่านมาทุกประการ คือประกันรายได้กิโลกรัมละ 2.50 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน เริ่มตั้งแต่ 1 ธ.ค.-1พ.ย.66 จ่ายเงินส่วนต่าง 12 งวด งบประมาณ 4,743.5 ล้านบาท และยังเห็นชอบมาตรการคู่ขนาน ได้แก่ 1.ช่วยดอกเบี้ย 3% กับเกษตรกรรายย่อย เพื่อกู้ไปใช้ในการปลูกมันสำปะหลัง วงเงิน 41.4 ล้านบาท 2. ช่วยดอกเบี้ยสถาบันเกษตรกรที่เก็บสต๊อกมันสำปะหลังไว้ในช่วงที่มันออกเยอะ จะได้ไม่ทำให้ราคาตก วงเงิน ไว้ 15 ล้านบาท 3.ช่วยดอกเบี้ย 3% ให้กับลานมัน โรงแป้งหรือโรงงานผลิตเอทานอล ในการนำไปแปรรูปเป็นมันเส้น แป้งมันหรือเอทานอล และเก็บสต๊อกไว้ 3-6 เดือน ตั้งวงเงิน 225 ล้านบาท และ 4.ยกระดับศักยภาพการแปรรูป 10 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งหมด
“รวมวงเงิน 2 ประกันรายได้มันสำปะหลังปี 4 และมาตรการเสริม เป็นเงิน 5,035.3 ล้านบาท จะได้เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไปโดยเร็ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ต้องจ่ายเพราะราคามันสำปะหลังกก.ละ 3 บาท เกินกว่าราคารายได้ประกัน”นายจุรินทร์ กล่าว
ที่ประชุมยังได้ตั้งอนุกรรมการ 2 ชุด เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นระบบและเป็นรูปธรรมขึ้นประกอบด้วย 1.อนุกรรมการด้านการผลิต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ตั้งปี 67 จะต้องได้ผลผลิตต่อไร่ไม่น้อยกว่า 5 ตัน ปัจจุบันทำได้เพียง 3.48 ตันต่อไร่ 2.ตั้งอนุกรรมการขับเคลื่อนการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศขึ้น ขณะนี้ตลาดต่างประเทศถือว่าทำได้ทะลุเป้าเพราะเป้าตั้งไว้ว่าจะต้องเป็น +3% แต่ทำได้ถึง 7% ส่วนตลาดในประเทศตั้งเป้าว่าราคาจะได้ไม่ต่ำกว่า 2.50 บาท แต่ขณะนี้ราคาอยู่ที่ 3.15 บาท
ส่วนสถานการณ์การผลิตมันสำปะหลังในประเทศไทยปีนี้ คาดการณ์ว่าผลผลิตจะอยู่ที่ 35.8 ล้านตันหรืออาจต่ำกว่านี้ ซึ่งมีปริมาณความต้องการ 42.5 ล้านตัน สูงกว่าปริมาณการผลิต เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ปัจจุบันราคาหัวมันสดสูงขึ้นมาก ตลอดปีที่ผ่านมาอยู่ที่เฉลี่ย กก.ละ 3.15 บาท เพิ่มขึ้น 23% มันเส้น กก.ละ 9.20 บาท +21.8% แป้งมัน กก.ละ 17.10 บาท เพิ่มขึ้น 21% เพราะสถานการณ์ราคามันสำปะหลังปีนี้ดีมาก
สำหรับตัวเลขการส่งออก 7 เดือนแรกปีนี้ สามารถส่งออกได้แล้ว 22 ล้านตัน ขยายตัว 14% เนื่องจากปริมาณไม่พอ จึงจำเป็นต้องนำเข้าส่วนนึง นำเข้ามาแล้ว 7 ล้านตัน สำหรับตลาดส่งออกของไทยที่ใหญ่ที่สุดคือ จีน 69% ญี่ปุ่น 8% อินโดนีเซีย 3% เกาหลี 2% เป็นมันเส้นประมาณ 40% แป้งมัน 60%
“ข่าวดีสำหรับตลาดส่งออกมันสำปะหลัง ขณะนี้ทูตพาณิชย์ไทย ประจำฟิลิปปินส์ประสานผู้นำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ต้องการนำเข้ามันสำปะหลัง จำนวน 37 บริษัทมาเจรจากับผู้ส่งออกมันสำปะหลังไทย ซึ่งได้พบกัน ช่วงวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา และเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จโดยเร็ว ผมมอบหมายให้รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน รับผิดชอบบริหารจัดการเรื่องนี้ให้เกิดผล ซื้อขายได้โดยเร็วที่สุด ทั้งหมดนี้จะมีผลในการช่วยยกระดับราคามันสำปะหลังให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น“ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว