BTS โชว์ผลตอบแทนสีส้ม ชี้รัฐเสียประโยชน์ - สูญเวลา 2 ปี

BTS โชว์ผลตอบแทนสีส้ม ชี้รัฐเสียประโยชน์ - สูญเวลา 2 ปี

บีทีเอส เปิดซองประมูลราคารถไฟฟ้าสายสีส้ม ครั้งที่ 1 เปรียบเทียบผลประโยชน์สุทธิ ชี้รัฐเสียโอกาส สูญเวลากว่า 2 ปี

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2565 เวลา 13.30 น. ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS เดินทางไปการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อรับซองประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ครั้งที่ 1 คืน ตามที่ได้ส่งหนังสือแจ้งต่อ รฟม.เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2565 ระบุเวลา 13.00-15.00 น. เพื่อขอรับเอกสารด้วยตนเอง 

อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกัน รฟม.ได้ส่งซองประมูลเฉพาะซองที่ 3 จำนวน 4 กล่อง คืนให้กับBTS ที่สำนักงานใหญ่ พร้อมกับแนบหนังสือลงวันที่ 8 ก.ย.2565 แจ้งส่งเอกสารข้อเสนอซองที่3 ตามที่บีทีเอสได้ประสานเจ้าหน้าที่ รฟม.เพื่อขอรับคืน

จากนั้น เวลา 15.00 น.นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหาร และทีมกฎหมาย ได้ดำเนินการเปิดซองประมูลซองที่ 3 ให้สื่อมวลชนได้รับ ให้สื่อมวลชนได้ทราบถึงราคาที่บริษัทเสนอในการประมูลครั้งแรกเมื่อปี 2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

มูลค่าขอรับเงินสนับสนุนค่างานโยธาช่วงตะวันตก (มูลค่าปัจจุบัน : NPV) เท่ากับ 79,280 ล้านบาท และการจ่ายเงินตอบแทนให้แก่ รฟม. (มูลค่าปัจจุบัน : NPV) เท่ากับ 70,144 ล้านบาท โดยเสนอผลประโยชน์สุทธิ (มูลค่าปัจจุบัน: NPV) เท่ากับ -9,676 ล้านบาท ในขณะที่ผู้ชนะการประมูลครั้งที่ 2 ที่เสนอผลประโยชน์สุทธิ (มูลค่าปัจจุบัน : NPV) เท่ากับ -78,287.95 ล้านบาท

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องการขอซองเสนอราคาประมูลครั้งที่ 1 คืน เนื่องจากได้รับทราบรายงานข่าวจาก รฟม.ที่มีการเปิดเผยตัวเลขข้อเสนอซองที่ 3 ของการประมูลครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2565 จึงต้องการเปรียบเทียบตัวเลขที่บริษัทได้ยื่นเสนอราคาไปในการประมูล ครั้งที่ 1 ซึ่งเชื่อว่ามีมูลค่าน้อยกว่าผู้ชนะการประมูล

"เรายังไม่ทราบรายละเอียดตารางข้อเสนอของผู้ประมูลจึงอยากให้ รฟม.นำเสนอข้อมูลทั้งหมดเพื่อบริษัทจะได้ชี้แจงรายละเอียดให้ได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีอัตราการคิดที่ต่างกันบ้างแต่ก็ต่างกันหลายหมื่นล้านบาท"

ทั้งนี้ หากไม่มีการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ รวมถึงยกเลิกการประมูล รัฐบาลจะได้โครงการนี้ตามราคาที่บีทีเอสได้เสนอไป ที่ขอเงินสนับสนุนจากภาครัฐราว 9,000 ล้านบาท รวมทั้งโครงการจะไม่ล่าช้ามาถึง 2 ปี

“การเปิดซองประมูลในวันนี้บริษัทได้เชิญสื่อมวลชนเป็นสักขีพยาน ยืนยันตัวเลขตามเอกสารที่บริษัทยื่นประมูลจริง โดยหลังจากนี้จะทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วิเคราะห์ ซึ่งในความเห็นของเราการประมูลครั้งนี้ควรถูกยกเลิก เพราะมีการยกเลิกประมูล และการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ใหม่ที่เชื่ออาจกีดกันการประมูล”

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์