‘อาคม’ ยันลดภาษีดีเซลไม่กระทบรายได้รัฐ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้อนุมัติขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ลงอีก 2 เดือน เริ่ม 21 ก.ย.- 20 พ.ย.65
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้อนุมัติขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ลงอีก 2 เดือน เริ่ม 21 ก.ย.- 20 พ.ย.65 นอกจากนี้ ยังขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันเกิน และไม่เกิน 0.005% โดยน้ำหนัก หรือน้ำมันดีเซลบี 0 และน้ำมันเตาที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า และขายไฟฟ้าทั้งหมดให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยกำหนดให้จัดเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราศูนย์ ออกไปอีก 6 เดือน
“การขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซลส่งผลให้กระทรวงการคลังสูญเสียรายได้เดือนละ 1 หมื่นล้านบาท รวม 2 เดือน สูญเสียรายได้ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ การลดภาษีดีเซล และน้ำมันเตาผลิตไฟฟ้านั้น เราสูญเสียรายได้ไป 1.4 พันล้านบาท ซึ่งการสูญเสียรายได้จะคาบเกี่ยวในปีงบประมาณ 2565 ที่จะสิ้นสุดสิ้นเดือนก.ย.นี้ และต้นปีงบประมาณ 2566 ที่เริ่มในเดือนต.ค. อย่างไรก็ดี เชื่อว่าไม่ได้มีผลกระทบกับการจัดเก็บรายได้ โดยยังคาดว่าปีงบ 2566 จะสามารถเก็บรายได้ตามเป้าหมาย 2.49 ล้านล้านบาท”
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังคงเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2565 ไว้ที่ 3.5% โดยจะต้องรอพิจารณาในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ด้วย อย่างไรก็ดี คาดว่า สถานการณ์เศรษฐกิจจะดีขึ้น ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า ล่าสุด เดินทางเข้ามาแล้ว 5 ล้านคน และคาดการณ์ว่าทั้งปี 2565 นี้ นักท่องเที่ยวจะเข้ามาได้ 8 ล้านคน
นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกที่ยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยรอบ 10 เดือน ขยายตัวได้กว่า 11% และสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือก็คาดว่าปีนี้จะทำได้ 8% โดยก็ได้ตั้งเป้าหมายว่า ปีนี้ขอให้ได้เพิ่มเป็น 10% ซึ่งสภาผู้ส่งออกก็รับปากในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี เรื่องที่น่าห่วงสำหรับการส่งออกก็ยังเป็น เรื่องปัญหาการขาดแคลนชิป ซึ่งก็ต้องติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และยังมีสินค้าในหมวดอาหารกระป๋อง ที่ขณะนี้ต้นทุนเหล็กแพงขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อราคาสินค้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ดูแลในเรื่องนี้อยู่
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์