ดาวโจนส์บวกในกรอบแคบ 30 จุดหลังทรุดหนักวานนี้

ดาวโจนส์บวกในกรอบแคบ 30 จุดหลังทรุดหนักวานนี้

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(14ก.ย.)ปรับตัวเพิ่มขึ้นในกรอบแคบ 30 จุดโดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนส่งแรงช้อนซื้อหุ้นที่ดิ่งลงอย่างหนักวานนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 30.12 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 31,135.09 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 13.32 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 3,946.01 จุด ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 86.10 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 11,719.68 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 1,200 จุดเมื่อวันอังคาร(13ก.ย.) โดยทรุดตัวหนักสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563 หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด ซึ่งจะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ดี การซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้รับปัจจัยบวกในวันนี้จากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงกว่าคาด

ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวเป็นข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญตัวสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 20-21 ก.ย.

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 3.25-3.50% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 64% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

ก่อนหน้านี้ นักลงทุนไม่เคยให้น้ำหนักว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมเดือนก.ย. และเพิ่งเริ่มให้น้ำหนัก 18% เมื่อวานนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จากโนมูระคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์จากโนมูระและสถาบันการเงินอื่นต่างคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมรอบนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.

ขณะเดียวกัน โนมูระคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งในเดือนพ.ย.และธ.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้น 0.25% ในเดือนก.พ.2566