กบน. เคาะเก็บเงินกลุ่มดีเซลวันละ 71 ล้าน อุ้มกองทุนน้ำมันติดลบ 1.2 แสนล้าน
กบน. มีมติเรียกเก็บเงินกลุ่มน้ำมมันดีเซลลิตรละ 1.13 บาท เป็นเงินวันละ 71.67 ล้านบาท หวังอุ้มสถานะกองทุนน้ำมันที่ปัจจุบันติดลบ 123,601 ล้านบาท ส่วนราคาดีเซลยังคงอยู่ที่ลิตรละ 35 บาท ลุ้นปรับราคาอีกครั้งสัปดาห์หน้า
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ผู้ช่วยเลขาคณะกรรมาการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน กล่าวว่า ในการประชุม กบน. วันนี้ (16 ก.ย. 2565 ) ได้มีประกาศเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเก็บเงินน้ำมันดีเซลหมุนเร็วดีเซล B7 น้ำมันดีเซล B20 น้ำมันดีเซลหมุนเร็วB7 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาพรีเมี่ยมลิตรละ 1.13 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ ส่งผลให้กองทุนน้ำมัน มีเงินเข้าบัญชีประเภทน้ำมันประมาณวันละ 71.67 ล้านบาท ส่วนบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) มีเงินไหลออกประมาณวันละ 27.82 ล้านบาท ทำให้กองทุนน้ำมัน มีรายรับสุทธิประมาณวันละ 43.85 ล้านบาทต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาราคาน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ในสัปดาห์หน้า (26 ก.ย. 2565) กองทุนน้ำมัน จะยังคงมีการพิจารณาราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลซึ่งขณะนี้ยังอยู่ที่ลิตรละ 34.94 บาท แต่ยังไม่มีการลอยตัวราคาน้ำมันอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2565 มีมติเห็นชอบต่ออายุลดภาษีน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ถึงวันที่ 20 พ.ย. 2565 ซึ่งปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ชดเชยน้ำมันดีเซลลิตรละ 2.50 บาท ทำให้มีเงินจ่ายออกวันละประมาณ 152.01 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG มีรายจ่ายประมาณวันละ 27.23 ล้านบาท
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันวันที่ 11 พ.ย. 2565 ติดลบ 124,601 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 82,534 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 42,067 ล้านบาท และได้รับเงินเงื่อขไขจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ที่บอร์ดมีมติอนุมัติเงินช่วยเหลือกองทุนน้ำมันเดือนละ 1,000 ล้านบาท เป็นเวลา 3 เดือน รวม 3,000 ล้านบาท ซึ่งเดือนก.ย. 2565 ได้รับเงินช่วยเหลือก้อนแรกเข้าบัญชีมาแล้ว 1,000 ล้านบาท ส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมันปัจจุบันติดลบ 123,601 ล้านบาท ส่วนกระแสเงินสดที่ฝากธนาคารอยู่ที่ 1,234 ล้านบาท