ดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบแคบ 42 จุด กังวลเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูง
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(5ต.ค.)ปรับตัวลงในกรอบแคบ 42 จุด จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 42.45 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 30,273.87 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 7.65 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 3,783.28 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 27.77 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 11,148.64 จุด
หุ้นพลังงานพุ่งขึ้นสวนทางหุ้นกลุ่มอื่นในตลาด ขานรับราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันเพื่อหนุนราคาน้ำมันในตลาด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ปรับตัวร่วงลง ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 1,600 จุดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ราคาหุ้นทวิตเตอร์ร่วงลง 2.10% ในวันนี้ หลังจากปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้น 22.24% ขานรับรายงานข่าวที่ว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ ได้ตัดสินใจยื่นข้อเสนอซื้อกิจการของทวิตเตอร์อีกครั้งในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 208,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง จากระดับ 185,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 238,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 30,000 ตำแหน่ง
ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 265,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%