บีโอไอผนึก KOTRA เปิดเวทีแรกกระตุ้นลงทุนเกาหลีใต้
บีโอไอร่วมมือ KOTRA จัดสัมมนาใหญ่ต้อนรับนักลงทุนเกาหลีคณะแรกหลังการระบาดของโควิด-19 เตรียมคิกออฟความร่วมมือไทย-เกาหลีในทุกมิติ ตอกย้ำความเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ บีโอไอ เปิดเผยว่า คณะนักลงทุนเกาหลีใต้ถือเป็นคณะแรกที่เดินทางเยือนไทยหลังการเปิดประเทศ รวมทั้งไทยยังเป็นประเทศแรกที่คณะนักลงทุนเกาหลีเดินทางเยือนหลังวิกฤติโควิดคลี่คลายแสดงถึงการให้ความสำคัญและมองเห็นศักยภาพของไทย ในการเป็นแหล่งรองรับการลงทุนสำหรับเกาหลีในอนาคต
ทั้งนี้ เกาหลีเป็นหนึ่งในนักลงทุนต่างชาติรายสำคัญ เพราะมีความโดดเด่นในด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ที่ไทยต้องการส่งเสริม เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ดิจิทัล และเทคโนโลยีชีวภาพ
ขณะที่ประเทศไทยก็มีศักยภาพที่จะตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนเกาหลีได้ โดยเฉพาะปัจจัยพื้นฐานที่ดี ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของสาธารณูปโภคและโลจิสติกส์ บุคลากรที่มีคุณภาพ ศักยภาพของตลาดในประเทศอุตสาหกรรมสนับสนุนครบวงจร โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากภาครัฐ
“เวทีสัมมนานี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่นักธุรกิจชั้นนำของเกาหลีและไทย ได้มาพบปะกัน และแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านธุรกิจเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต”
นายคิม เท โฮ รองประธานบริหารฝ่ายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า KOTRA กล่าวว่า สาธารณรัฐเกาหลีและไทยได้พัฒนาความสัมพันธ์ความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองประเทศรักษาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์มาตั้งแต่ปี 2555 และปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 10 ปี ของความสัมพันธ์ดังกล่าว
ซึ่งที่ผ่านมา การลงทุนจากเกาหลีจัดอยู่ในลำดับที่ 8 ที่มีการลงทุนสูงสุดในไทย โดยมีบริษัทเกาหลีที่ลงทุนในประเทศไทยกว่า 400 บริษัท ในสาขาต่าง ๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก และชิ้นส่วนยานยนต์สมัยใหม่ และได้สร้างเวทีสำหรับความร่วมมือในกลุ่มอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเชื่อมโยงนโยบายของทั้งสองประเทศ รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือแบบ win-win ให้กับสองประเทศ
“งานสัมมนาในวันนี้ KOTRA ได้ใช้โอกาสนี้เป็นเวทีเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปี ของการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เกาหลี - ไทย และยกระดับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระดับทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ถือเป็นประตูสู่ความร่วมมือกับผู้ประกอบการจากประเทศไทย ผมหวังว่าทั้งสองประเทศจะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจผ่านเวทีนี้ต่อไปในอนาคต”
ทั้งนี้ ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ระหว่างปี 2555 - 2565 (ม.ค. - มิ.ย.) มีโครงการจากเกาหลียื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 356 โครงการ มูลค่ารวม 62,651 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ และอุตสาหกรรมเบา ตามลำดับ
สำหรับวันที่ 7 ตุลาคม 2565 นักลงทุนเกาหลีจะเข้าเยี่ยมชมพื้นที่เจตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของพื้นที่ EEC ในการรองรับการลงทุนจากเกาหลี และยังเป็นพื้นที่ที่บีโอไอให้การสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์เป็นพิเศษด้วย