เกษตรกรปลูกมะพร้าวน้ำหอม ทำเงินหลัก แสน/ปี

รวมทั้งยังใช้เวลาว่างที่เหลือในการทำฟาร์มเลี้ยงด้วงสาคูในกะละมังแบบครบวงจรทั้งขายพ่อแม่พันธุ์ ขายด้วงสด ขายด้วงแช่แข็ง และจำหน่ายชุดทดลองเลี้ยง สร้างรายได้เข้าครอบครัวเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท ตามข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ ส่วนการทำเกษตรแบบผสมของนางลัดดาวัลย์ ยังได้แบ่งพื้นที่อีกประมาณ 1 ไร่เศษ ในการปลูกมะพร้าวน้ำหอมรวมประมาณ 150 -200 ต้น ขณะนี้อายุมะพร้าวน้ำหอมเข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว สามารถขายผลผลิตได้แล้ว โดยจะมีพ่อค้าประจำมาตัดรับซื้อถึงสวนในราคาส่งลูกละ 8 -10 บาท
     ซึ่งนางลัดดาวัลย์ กล่าวว่า สำหรับมะพร้าวน้ำหอมเนื้อที่โดยรวมประมาณ 1 ไร่เศษ เริ่มออกจานตั้งแต่ 2 ปี 8 เดือน หลังจากนั้นก็ให้ผลผลิตเรื่อยมา จนตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 6 จะมีคนรับซื้อประจำมาตัดเองถึงสวน ในราคาขายส่งลูกละ 8-10 บาท ทั้งนี้ กำหนดรอบตัด 20 วันตัดครั้ง ตอนนี้ที่ตัดได้ประจำจำนวน 150 ต้น ตัดได้รอบละประมาณ 400 กว่าลูก ส่วนที่เหลือก็ทยอยปลูกเสริมเรื่อยๆ ตอนนี้รวมประมาณ 200 ต้นแล้ว

ซึ่งมะพร้าวก็เป็นพืชเศรษฐกิจที่หมุนเวียนให้กับตนเอง ได้เป็นอย่างดี เพราะตนเองทำการเกษตรแบบผสมผสานปลูกพืชหลายชนิด ทั้งเลี้ยงด้วงสาคู สวนมะพร้าวน้ำหอม มีสวนทุเรียน มีกระท้อนปุยฝ้าย ซึ่งมะพร้าวน้ำหอมไม่ต้องกังวลตลาด เพราะมีลูกค้าประจำ ให้ผลผลิตสม่ำเสมอราคาก็ไม่เคยตกต่ำไปกว่านี้ ส่วนต้นทุนก็ไม่มาก ปุ๋ยจะใส่มูลด้วงสาคู (ขี้ด้วง) ไม่เคยใส่ปุ๋ยเคมี แต่จะเสริมด้วยขี้ไก่แกลบ แต่จะต้องใส่เสริมด้วยเกลือปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มความมัน เพิ่มรสชาติความหวาน และไม่ยุ่งยากในการดูแล และลูกค้าจะมาตัดเองถึงสวนรอบละประมาณ 400 กว่าลูก 20 วันตัดครั้ง หรือเดือนละประมาณ 800 ลูก ทำให้มีรายได้เสริมเดือนละ 6,000 – 8,000 บาท หรือปีละ 70,000 - เกือบแสนบาท
     นายภิญญา ปารนะ อายุ 32 ปี ชาว ต.นาพละ อ.เมือง พ่อค้ารับซื้อมะพร้าวน้ำหอม กล่าวว่า มาตัดเอง ทั้งไปเปิดท้ายขายเอง และต่อให้กับลูกค้าร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่มในพื้นที่ จ.ตรังด้วย พูดถึงราคามะพร้าวน้ำหอมอยู่ในเกณฑ์ดีมาโดยตลอดไม่เคยตกต่ำ ตลาดต้องการสูง ส่วนตัวต้องการอาทิตย์ละ 6,000 ลูก บางช่วงก็พอ บางช่วงก็ไม่พอส่ง ราคารับซื้อ 8-10 บาท ส่วนหนึ่งนำไปเปิดท้ายขายเอง และส่วนหนึ่งส่งขายต่อให้แก่ลูกค้าตามร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ซึ่งมีออเดอร์ด้วยว่าต้องการเนื้อมะพร้าวน้ำหอมแบบไหน เช่น ออเดอร์มะพร้าวน้ำหอมสำหรับเจาะเนื้อ วันละ 10 กก.ทุกวัน และออเดอร์มะพร้าวกว้านอีกวันละนับร้อยลูก

 อย่างในวันนี้ออเดอร์มะพร้าวกว้าน จำนวน 150 ลูก เพราะตอนนี้ร้านอาหาร หรือเครื่องดื่ม มีการนำเสนอเมนูที่หลากหลายมากขึ้น ในการตัดผลตนเองซื้อคละ จากนั้นนำไปคัดแยกส่งตามออเดอร์ของลูกค้า เช่น มะพร้าวน้ำหอมเนื้อ 2 ชั้น ไว้กว้าน หรือเนื้อชั้นครึ่งทั้งไว้กว้านและไว้สำหรับทำน้ำมะพร้าวปั่นโดยเนื้อที่ได้จะหวานมัน หรือนุ่ม ต่างกัน ทั้งนี้ราคาไม่เคยตกต่ำดังกล่าว แต่บางช่วงที่ตกลงมาประมาณเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มะพร้าวออกสู่ตลาดจำนวนมากแต่แม้จะตกก็ไม่มาก ชาวสวนไม่เคยขาดทุน แต่หลังจากนั้นในเดือนมกราคม - เมษายนช่วงหน้าแล้ง ราคาก็จะพุ่งสูงขึ้นไปอีก และจะแพงสุดในเดือนพฤษภาคมของทุกปี เคยราคาพุ่งสูงสุดตกลูกละ 22- 23 บาท และตอนนี้เกษตรกรหันปลูกมะพร้าวน้ำหอมกันมากขึ้นเรื่อยๆ บางแปลงปลูก 50-80 ไร่ ตนเองจะซื้อโดยรวมแล้วนำมาคัดแยกว่าลุกค้าต้องการไซต์ หรือเนื้อแบบไหน คนปลูกมะพร้าวน้ำหอมในจ.ตรัง ยังไม่มากเท่าไหร่ ที่เริ่มปลูกก็มี แต่พบว่ามีคนปลูกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บางแปลงปลูก 50-80 ไร่