'ไอเอ็มเอฟ-เวิลด์แบงก์'ประสานเสียงเตือนปีหน้าศก.โลกถดถอย
ไอเอ็มเอฟและเวิลด์แบงก์ พร้อมใจเตือนปีหน้าเศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะถดถอย จากปัญหาเงินเฟ้อ การระบาดของโรคโควิด-19และสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในวันนี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ, การแพร่ระบาดของโควิด-19, การที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน และผลกระทบจากภาวะโลกร้อนต่อเศรษฐกิจในทุกทวีป
ก่อนหน้านี้ ในการเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในเดือนก.ค. ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2565 และ 2566 สู่ระดับ 3.2% และ 2.9% ตามลำดับ
นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ และนายเดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก กล่าวเตือนในวันนี้(11ต.ค.)ว่า เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญภาวะถดถอยในปีหน้า ขณะที่เงินเฟ้อยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครนในเดือนก.พ.
"มีความเสี่ยงและอันตรายอย่างแท้จริงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอยในปีหน้า" ผอ.ไอเอ็มเอฟ ระบุ
แถลงการณ์ร่วมจากนางจอร์เจียวาและนายมัลพาสระบุ ก่อนการประชุมประจำปีแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรกระหว่างไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ นายมัลพาสแสดงความกังวลต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และการอ่อนค่าของสกุลเงินในประเทศที่กำลังพัฒนา รวมทั้งเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้น
ด้านนางจอร์เจียวากล่าวว่าไอเอ็มเอฟจะเน้นย้ำในการประชุมสัปดาห์นี้ให้ธนาคารกลางของชาติต่างๆยังคงใช้ความพยายามสกัดเงินเฟ้อต่อไป แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
"ถ้าพวกเขาดำเนินการอย่างไม่เพียงพอ เราก็จะเผชิญปัญหาจากเงินเฟ้อที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางยิ่งต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น และจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ" นางจอร์เจียวา กล่าว
นอกจากนี้ นางจอร์เจียวาระบุว่า การใช้มาตรการทางการคลังควรจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงการเติม "เชื้อเพลิงเข้าสู่กองไฟแห่งเงินเฟ้อ"