ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเพิ่มชึ้น 1.84 ดอลล์ เหตุซัพพลายตึงตัว
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันพฤหัสบดี(13ต.ค.)ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ โดยยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันพฤหัสบดี(13ต.ค.)ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ โดยยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) เตือนว่า การตัดสินใจของกลุ่มโอเปกพลัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่จะลดการผลิตน้ำมันลงนั้น อาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันดิบยังคงพอได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่จะลดการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย.เพื่อหนุนราคาน้ำมัน
ด้านสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) เตือนในวันนี้ (13 ต.ค.) ว่า การตัดสินใจของกลุ่มโอเปกพลัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่จะลดการผลิตน้ำมันลงนั้น ได้ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น และอาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
"การชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นซึ่งเกิดจากแผนการปรับลดปริมาณน้ำมันของโอเปกพลัสนั้น กำลังทำให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกลดลง" ไออีเอ ซึ่งรวมถึงสหรัฐและประเทศผู้บริโภคชั้นนำอื่น ๆ ระบุ
"ขณะที่เผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วนั้น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจทำให้เศรษฐกิจโลกใกล้เข้าสู่ภาวะถดถอย" ไออีเอ ระบุในรายงานรายเดือน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำเตือนจากไออีเอ บ่งชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งกับซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของกลุ่มโอเปก