ราคา ‘ผัก’ สูงสุดในรอบ 10 ปี หลังอีสานจมน้ำ

ราคา ‘ผัก’ สูงสุดในรอบ 10 ปี หลังอีสานจมน้ำ

ผักหลายชนิดมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น เช่น ผักชี พริกสด ยี่หร่า ใบกระเพรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นหอมที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาผักที่ตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา พบว่าผักหลายชนิดมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น เช่น ผักชี พริกสด ยี่หร่า ใบกระเพรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นหอมที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว จากเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ต้นหอมมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท แต่ขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท นอกจากนี้ยังพบว่าผักหลายชนิดขาดตลาดเช่น ใบโหระพา ใบแมงลัก สะระแหน่ รวมไปถึงต้นหอมที่แม่ค้าต้องสั่งมาจากจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งสาเหตุของราคาผักที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาจากพื้นที่ปลูกผักส่วนใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้พืชผักหลายชนิดได้รับความเสียหาย อีกทั้งปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ทำให้เกษตรกรในจังหวัดนครราชสีมาที่ปลูกผักไม่สามารถปลูกผักส่งมาขายยังตลาดได้จึงทำให้ผักบางชนิดขาดตลาดและมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
โดยนางสุมนัส(อ่านว่า สุ-มะ-นัด) ฟาดสูงเนิน อายุด 53 ปี แม่ค้าขายผักรายหนึ่ง กล่าวว่า ตลาดนี้ราคาผักหลายชนิดโดยเฉพาะต้นหอมที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น 2 เท่าตัว นอกจากราคาจะแพงขึ้นแล้วยังขาดตลาดจนทำให้ตนและแม่ค้าเจ้าอื่นต้องสั่งต้นหอมมาจากจังหวัดทางภาคเหนือซึ่งก็มีราคาเพิ่มสูงขึ้นไปอีกโดยทางบริษัทขนส่งคิดค่าขนส่งกิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งตอนนี้ตนต้องแบกรับภาระต้นทุนจากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นและไม่มีผักที่จะขายในแต่ละวัน จนตนต้องมีการปรับลดปริมาณของผักที่รับมาขายในแต่ละวันลดลงจากวันละ 100 กิโลกรัมเหลือเพียงประมาณวันละ 50-60 กิโลกรัม ซึ่งตนน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน สถานการณ์ของราคาผักจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติถ้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่นครราชสีมาเริ่มคลี่คลาย
 

ราคาผักพุ่งขึ้นหลังหลายพื้นที่น้ำท่วมหนักไม่สามารถปลูกมาขายได้ผักหลายชนิดปรับขึ้นราคา 20-50 บาท
 
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานีว่าเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ที่ตลาดเมืองทองเจริญศรี ถ.นิตโย เขตเทศบาลนครอุดรธานีถึงบรรยากาศราคาผักหลังจากในหลายพื้นเกิดน้ำท่วมกระจายในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทำให้ราคาผักหลายชนิดปรับขึ้นราคา 20-50 บาท โดยก็ยังมีประชาชน ร้านค้าต่างทยอยมาหาซื้อผักตามฤดูกาลไปขายเหมือนเดิมแม้ราคาจะมีการปรับขึ้น
 
ซึ่งราคาพืชผักที่นำมาขายส่งให้ช่วงนี้ทุกชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้นทุกชนิดไปจนปรับราคาสูงขึ้นถึงเท่าตัว และไม่ค่อยมีมากเหมือนเมื่อก่อนที่น้ำยังไม่ท่วมผักก็จะราคาถูกและปกติอยู่แล้ว เมื่อรับมาแพงขึ้นทำให้ต้องขยับขายราคาสูงขึ้นตามไปด้วย เมื่อราคาพืชผักแพงขึ้น ลูกค้ามาหาซื้อที่แผงผักในตลาด ยอดซื้อก็ลดลง จากที่เคยซื้อเป็นกิโลกรัม ก็ลดลงเหลือครึ่งกิโลกรัม หรือเคยซื้อเป็นกำขนาดใหญ่ ได้ขอแบ่งซื้อเพียงครึ่งกำ หากเป็นลูกค้าประจำก็ยอมแบ่งขายดีกว่ารอให้มันเน่า

บุรีรัมย์ผลพวงน้ำท่วมแหล่งเพาะปลูกพืชผักหลายจังหวัด ส่งผลให้ผักหลายชนิดราคาแพงสุดในรอบ10ปี บางอย่างแพงขึ้นกว่า2เท่าตัว จนแม่ค้าต้องลดปริมาณรับมาขายเพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว ประกอบกับยอดขายลดลงเพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อ
 
(18ต.ค.65) หลังจากที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมแหล่งเพาะปลูกพืชผักในหลายพื้นที่จังหวัดทำให้ผลผลิตเสียหาย ส่งผลให้พืชผักหลายชนิดราคาแพงขึ้น โดยจากการสำรวจทั้งร้านค้าส่ง และขายปลีกในตลาดสดเทศบาลเมืองนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าผักหลายชนิดมีราคาแพงขึ้น โดยผักบางชนิดราคาแพงจากเดิมกว่า2เท่าตัว อาทิมะเขือจากเดิมยกถุง 10 กิโลกรัม 170 บาท ช่วงนี้ราคาสูงเป็นถุงละ 420 บาท เปรียบเทียบต่อกิโลกรัม ก็ตกเฉลี่ยกิโลละกว่า 40 บาท , ฟักปกติขาย 120 บาท ตอนนี้ขึ้นเป็น 300 บาท ตกกิโลละ 30 บาท , ต้นหอม เดิมราคากิโลละ 70 บาท ก่อนหน้านี้ก็กิโลกรัมละ 100 บาท แต่ตอนนี้พุ่งเป็นกิโลละ 170 บาทซึ่งแม่ค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาผักปีนี้แพงที่สุดในรอบ10ปี จนแม่ค้าบางรายไม่กล้ารับผักที่มีราคาแพงมากมาขาย เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว ทั้งกลัวว่ารับมาแล้วจะขายไม่ได้อาจทำให้ผักเหลือตกค้างและขาดทุน เพราะประชาชนก็ไม่มีกำลังซื้อ
 
โดยนางกนกวรรณ วิจิตรศักดิ์ อายุ 46 ปี แม่ค้าขายผักในตลาดเช้าเทศบาลเมืองนางรอง บอกว่า ตนขายผักมา 10 กว่าปี ผักไม่เคยแพงมากขนาดนี้ซึ่งปีนี้บางอย่างราคาพุ่งกว่า2เท่าตัว ที่ผ่านมาช่วงเทศกาลกินเจ ราคาผักจะแพงอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่แพงเท่าช่วงนี้ เชื่อว่าเพราะผลกระทบจากน้ำท่วมแหล่งปลูกผักในหลายพื้นที่จังหวัด ทำให้ช่วงนี้ต้องลดปริมาณการรับซื้อผักลดจากเดิมเท่าตัว เพราะสู้ต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว ประกอบกับยอดขายก็ลดลงเพราะไม่มีกำลังซื้อ