อคส.โชว์ผลงาน 2 ปี ฟ้องร้องคดีทุจริตอื้อมูลค่าความเสียหาย 5.24 แสนล้านบาท
ผอ.อคส.เผย 2 ปี ฟ้องร้องคดีทุจริตรับจำนำข้าว-มัน-ข้าวโพด เพิ่มเติม ความเสียหายกว่า 8.7 พันล้านบาท รวมเสียหายทั้งสิ้น 5.24 แสนล้านบาท จากเดิม 5.15 แสนล้านบาท ยังเดินหน้าตรวจสอบคลังเก็บมันในสต๊อกรัฐ หลังขายจีทูจีให้กับจีนแล้ว ส่งสินค้าไม่ได้มาตรฐานกำหนด
นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปี หรือตั้งแต่เดือนก.ย.63 ที่ตนรับตำแหน่งผู้อำนวยการอคส. ได้เดินหน้าสะสางคดีค้างเก่าที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี-นาปรัง, รับจำนำมันสำปะหลัง, รับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสินค้าเกษตรอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีผู้กระทำผิดในโครงการต่างๆ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเพิ่มเติมรวม 28 คดี มูลค่าความเสียหาย 8,775 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 1,349 คดี ความเสียหาย 524,727 ล้านบาท จากเดิมที่ส่งฟ้องไปแล้วก่อนหน้านี้ประมาณ 515,952 ล้านบาท
ด้านพ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ รองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า คดีฟ้องร้องเพิ่มเติมดังกล่าว แบ่งเป็น รับจำนำข้าวเปลือก ฟ้องเพิ่ม 3 คดี มูลค่าความเสียหาย 3,022 ล้านบาท รวมเป็น 1,179 คดี ความเสียหายรวม 503,590 ล้านบาท, มันสำปะหลัง ฟ้องเพิ่ม 23 คดี ความเสียหาย 4,825 ล้านบาท รวมเป็น 166 คดี ความเสียหายรวม 20,065 ล้านบาท, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ฟ้องเพิ่ม 2 คดี ความเสียหาย 928 ล้านบาท รวมเป็น 4 คดี ความเสียหาย 1,072 ล้านบาท
“คดีเหล่านี้ มีทั้งฟ้องทางอาญา และทางแพ่ง ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น มีบางส่วนที่ศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว แต่อคส. อุทธรณ์ เช่น ศาลตัดสินให้ผู้กระทำผิด ชดใช้ค่าเสียหายให้กับอคส. แต่เราเห็นว่า มูลค่าความเสียหายน้อยเกินไป ก็อุทธรณ์ใหม่ หรือผู้กระทำผิด อุทธรณ์บ้างก็มี” พ.ต.อ.สุรพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีบางคดีที่คดีถึงที่สุดแล้ว และศาลตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับอคส. อย่างคดีฟ้องร้องโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ที่คดีถึงที่สุดและศาลตัดสินให้ชดใช้ความเสียหายให้อคส.รวมประมาณ 5,000 ล้านบาท และจ่ายชดใช้แล้วประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออคส.อยู่ระหว่างประสานกับกระทรวงการคลังให้ช่วยเร่งรัดการจ่ายชดใช้ให้ สำหรับคดีที่เกี่ยวกับรับจำนำข้าว และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยังไม่ถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อคส.ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายมันสำปะหลังแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับจีนในช่วงรัฐบาลก่อนหน้านี้ เพราะอคส.ได้รับการแจ้งจากกรมการค้าต่างประเทศว่า ผู้ซื้อของจีน ได้รับมันสำปะหลังจากไทย โดยที่คุณภาพ และมาตรฐานไม่ตรงตามที่กำหนด จึงต้องตรวจสอบว่า โกดัง และคลังที่ฝากเก็บมันในสต๊อกรัฐบาล มีการรักษาคุณภาพ มาตรฐานตามที่กำหนดหรือไม่ หากไม่มีการรักษาคุณภาพ มาตรฐาน ก็จะมีความผิดไม่ทำตามสัญญาการฝากเก็บ