'อีลอน มัสก์' จ่อปลดพนักงานครึ่งหนึ่งของทวิตเตอร์ หวังลดต้นทุน
นายอีลอน มัสก์ วางแผนปลดพนักงานทวิตเตอร์ประมาณ 3,700 ตำแหน่ง หรือคิดเป็นสัดส่วนครึ่งหนึ่งของพนักงานทั้งหมดของทวิตเตอร์เพื่อลดต้นทุน หลังเข้าซื้อกิจการด้วยข้อตกลงมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ไปเมื่อไม่นานมานี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า นายอีลอน มัสก์ วางแผนแจ้งเรื่องการ ปลดพนักงานทวิตเตอร์ ให้กับพนักงานที่ได้รับผลกระทบทราบในวันศุกร์นี้ (4 พ.ย.) อีกทั้งยังตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนนโยบายการทำงาน จากเดิมที่อนุญาตให้พนักงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ เป็นขอให้พนักงานที่เหลือทั้งหมดกลับเข้ารายงานตัวที่ออฟฟิศ แม้อาจจะมีข้อยกเว้นบางประการก็ตาม
แหล่งข่าวระบุว่า นายมัสก์และคณะที่ปรึกษาได้ดำเนินการประเมินสมมุติฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับการปลดพนักงานและการเปลี่ยนแปลงนโยบายอื่น ๆ ในทวิตเตอร์ พร้อมระบุเสริมว่า เงื่อนไขในการปลดพนักงานยังคงเปลี่ยนแปลงได้ โดยสมมุติฐานหนึ่งที่อยู่ภายใต้การพิจารณาก็คือ พนักงานที่ถูกปลดจะได้รับเงินค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 60 วัน
อย่างไรก็ตาม โฆษกของทวิตเตอร์ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวดังกล่าว
ขณะนี้ นายอีลอน มัสก์ เผชิญแรงกดดันในการหาวิธีลดต้นทุนธุรกิจที่เขาระบุว่าเขาจ่ายเงินซื้อแพงเกินไป โดยนายมัสก์ตกลงที่จะจ่ายเงินซื้อทวิตเตอร์ที่ราคา 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้นในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นต่าง ๆ ปรับตัวลง
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า นายมัสก์มีแผนปรับลดจำนวนพนักงานของบริษัททวิตเตอร์เกือบ 75% แต่เขาก็ได้ออกมาปฏิเสธรายงานตัวเลขคาดการณ์เปอร์เซ็นต์การปรับลดพนักงานดังกล่าวในภายหลัง