นักวิชาการดาหน้า ‘ค้าน’ ดึงเงิน กทปส. ซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก

นักวิชาการดาหน้า ‘ค้าน’ ดึงเงิน กทปส. ซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก

คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการด้านสื่อ ร่วมลงนามคัดค้านการนำเงินจาก กทปส. ไปใช้สนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเป็นจำนวนเงินสูงถึง 1,600 ล้านบาท

โดยคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองศาสตราจารย์ ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ ได้เสนอให้การกีฬาแห่งประเทศไทยพิจารณาหาแนวทางความร่วมมืออื่น ที่ไม่กระทบต่อผลประโยชน์สาธารณะ อีกทั้งยังได้เรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และ กทปส. ออกมาชี้แจงถึงสถานะทางการเงินล่าสุด รวมถึงพิจารณาวาระนี้อย่างโปร่งใส เป็นธรรม คำนึงถึงการคุ้มครองผลประโยชน์สาธารณะของประชาชนวงกว้างเป็นสำคัญ

ขณะเดียวกันมองว่าการพิจารณานำเงินก้อนนี้ไปสนับสนุนนั้น ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกองทุน และมีโอกาสที่จะกระทบต่อสภาพคล่องของเงินทุน เกิดการหยุดชะงักของการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรสื่อสารประเทศ ขาดโอกาสพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในภาพรวมด้วย

รองศาสตราจารย์ ดร.ปรีดา ยังได้เสนอแนวทางแก้ไขในระยะสั้นคือเจรจากับองค์กรที่เกี่ยวข้อง อาจรวมถึงการพิจารณาเรื่องของกฎ “มัสต์แฮฟ” และ “มัสต์แครรี่” ว่าจะมีข้อยกเว้นอย่างไรได้บ้าง

ขณะที่หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มรรยาท อัครจันทโชติ ขอให้ กสทช. ดำเนินงานตามพันธกิจ เป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริง พิจารณาอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ มองผลประโยชน์ของคนส่วนมากเป็นสำคัญ และไม่ควรนำเงินหลักพันล้านมาใช้เพียงแค่ 1 เดือนแล้วหายไป

เมื่อถามว่าหาก กสทช. ยืนกรานอนุมัติเงินส่วนนี้ หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า กสทช. ก็ต้องออกมาชี้แจงให้ชัดว่าเงินเหลือเท่าไหร่ แผนงานต่อไปมีอะไรบ้าง เอาเงินส่วนนี้มาใช้จะกระทบโครงการใดต้องหยุดชะงักบ้าง ก่อนตั้งคำถามไปถึงภาคเศรษฐกิจ หากลงทุนแล้วเกิดการขยายตัวจริง ทำไมภาคเอกชนถึงไม่กล้าลงทุน ฉะนั้นส่วนตัวเลยไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ หนำซ้ำอาจกระทบต่อประชาชนด้วย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มรรยาท ยังฝากสื่อมวลชนจับตาถึงการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่ ย้ำว่า กสทช. ไม่มีอำนาจแทรงแซงในกรณีนี้ และในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่า กสทช. จะมีมติออกมาอย่างไร ก่อนปฏิเสธให้ความเห็นว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองด้วยหรือไม่ โดยระบุว่า “ไม่ขอพูดถึง”