การค้าไร้กระดาษใน APEC | สกล หาญสุทธิวารินทร์

หลักการของเอเปค Asia Pacific Economic Cooperation :APEC ที่สำคัญประการหนึ่งคือ การอำนวยความสะดวกด้านการค้า Trade Facilitation
จุดมุ่งหมายให้การเคลื่อนย้ายสินค้าข้ามพรมแดนหรือการค้าระหว่างประเทศทั้งนำเข้าส่งออก ดำเนินไปด้วยความสะดวก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน ลดระยะเวลาของการนำเข้าส่งออก การดำเนินการที่สำคัญคือ ผลักดันการค้าไร้กระดาษ (Paperless Trade) ให้สัมฤทธิ์ผล
การค้าไร้กระดาษ ไม่มีคำจำกัดความที่เป็นทางการกำหนดไว้ แน่นอนแต่อาจอธิบาย สรุปได้ว่า คือ การค้าระหว่างประเทศในการนำเข้าส่งออกสินค้าหรือบริการที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของการติดต่อสื่อสาร การรับส่งข้อความ
การรับส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องทางอิเล็กทรอนิกส์แทนการติดต่อสื่อสาร การรับส่งข้อความ หรือเอกสารที่เป็นกระดาษแบบที่ทำกันแบบเดิม สำหรับอีคอมเมิร์ช หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการค้าไร้กระดาษ
แนวปฏิบัติการค้าไร้กระดาษของ APEC
มีการจัดทำแนวปฏิบัติสำหรับการค้าไร้กระดาษ (Guidelines for Paperless Trade) โดยคณะอนุกรรมการพิธีการศุลการกร (APEC Sub- Committee on Customs Procedures) เผยแพร่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564
การจัดทำแนวปฏิบัติดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 คณะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านการค้าของ เอเปค มีมติให้เร่งนำ ความตกลงเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้าภายใต้องค์กาการค้าโลกมาใช้โดยเร็ว โดยเน้นการนำระบบดิจิตัลมาใช้กับพิธีการนำเข้าส่งออกสินค้า
ทั้งนี้ ด้วยเห็นว่า การผลักดันให้เกิดการค้าไร้กระดาษ จะเป็นประโยชน์อย่างสำคัญต่อภูมิภาคเอเปค และจะช่วยให้สมาชิกฟื้นจากผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 ได้
การรีบให้นำระบบดิจิตัลมาใช้กับพิธีการนำเข้าส่งออก จะเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ค้ารายใหม่เข้าไปมีส่วนร่วมในการค้าของโลก และเปิดช่องทางให้ภาครัฐปรับปรุงขั้นตอนพิธีการให้ง่ายขึ้น ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในการค้าได้
แนวปฏิบัติประกอบด้วย
1. สมาชิกต้องพยายามนำแนวปฏิบัติตามความตกลงเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้าขององค์การการค้าโลกมาใช้เท่าที่เป็นไปได้ โดยใช้วิธีทางอิเล็กทรอนิกส์
2. สมาชิกควรจัดให้มีระบบเชื่อมโยงข้อมูล (Single window) และดูแลรักษาระบบดังกล่าว เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าสามารถ ยื่นเอกสาร หรือข้อมูลที่จำเป็น สำหรับการนำเข้าส่งออก หรือนำผ่านสินค้าที่จุดเดียว และมีการส่งผ่านเอกสารและข้อมูลนั้นไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ประกอบการค้าจะได้รับแจ้งผลการพิจารณาผ่านระบบดังกล่าวโดยไม่ชักช้า
ทั้งนี้ เอกสารหรือข้อมูลที่ยื่นผ่านระบบดังกล่าวให้ยื่นเพียงชุดเดียว โดยหน่วยงานของรัฐต้องไม่เรียกร้องขอเอกสารหรือข้อมูลนั้นซ้ำอีก ยกเว้นในกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนที่แจ้งให้สาธารณชนทราบล่วงหน้าแล้ว
ทั้งนี้ สมาชิกควรใช้เทคโนโลยีไอทีสนับสนุนการปฏิบัติการของระบบเชื่อมโยงข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ สมาชิกควรดำเนินการให้มั่นใจว่าหน่วยงานตามชายแดนที่มีอำนาจหน้าที่ควบคุมพิธีการนำเข้าส่งออก หรือนำผ่านสินค้า ให้ความร่วมมือประสานกันกับผู้รับผิดชอบระบบเชื่อมโยงข้อมูล เพื่อให้การอำนวยความสะดวกทางการค้ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3. ข้อมูลมาตรฐานที่เกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกที่จะใช้ร่วมกันใน Single Window ควรสอดคล้องกับรูปแบบขององค์กรศุลกากรโลก (World Customs Organisation :WCO)
4. กรอบกฎหมายที่จะใช้สำหรับการค้าไร้กระดาษ จำเป็นต้องมีความยืดหยุ่น เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการค้าไร้กระดาษและเพื่อดูแลความยุ่งยากซับซ้อนที่จะเพิ่มขึ้นของห่วงโซ่อุปทานได้
5. การตรากฎระเบียบออกใช้บังคับต้องเป็นกลางทางเทคโนโลยีและมีความยืดหยุ่น โดยต้องคำนึงแนวทางที่ทำให้กระบวนการที่ชายแดนสามารถสนองตอบการค้าไร้กระดาษได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
6. ความน่าเชื่อถือของ Single Window ขึ้นอยู่กับความถูกต้องของข้อมูลที่ส่งเข้าไป และต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายที่จะดูแลความถูกต้อง ความเที่ยงตรง ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยของข้อมูลที่ส่งและเก็บไว้ที่ Single Window
7. ต้องยอมรับเอกสารที่เสนอในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เสมอกับเอกสารกระดาษ
8. ยอมรับหนังสือรับรองในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์ หรือสำเนาเอกสารจากการสแกน ให้สามารถจัดส่งพร้อมใบขนสินค้าขาเข้าได้
9. ยอมรับใบขนสินค้า สำหรับการนำเข้าส่งออก หรือผ่านแดนในรูปของอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปใน Single Window ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือผ่านระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีข้อความ ตามแบบของของข้อมูลของ WCO
10. สมาชิกควรเรียกเอกสารเพื่อตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้นำเข้าภายหลังสินค้ามาถึงแล้วให้น้อยที่สุด และควรใช้การตรวจสอบหลังตรวจปล่อยแทน
11. ควรใช้ Single Window โดยอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้ประเมินข่าวสารที่เกี่ยวกับสินค้าที่นำเข้าหรือผ่านแดนล่วงหน้า เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนสินค้าจะมาถึง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถวางแผนล่วงหน้าเพื่อการปล่อยสินค้าโดยทันที หรือเพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการนำข้าสินค้าครั้งหนึ่งครั้งใดเป็นการเฉพาะ
12. ควรยอมรับคำขอให้ออกใบอนุญาตและให้มีการออกใบอนุญาตให้นำเข้าส่งออกในรูปอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการตรวจปล่อยสินค้า และเพื่อการป้องกันการโกง จะออกใบอนุญาตรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้รหัส PIN หรือ QR เสมือนลายมือชื่อที่ปลอดภัยได้
13. ยอมรับการจ่ายเงินทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการชำระค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการนำเข้าส่งออกที่ศุลกากรมีหน้าที่จัดเก็บได้
14. จัดให้มีการใช้กระบวนการขั้นตอนในการยื่นข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้า ก่อนสินค้ามาถึง เพื่อให้สามารถปล่อยสินค้าเมื่อมาถึงได้ เว้นแต่มีความจำเป็นต้องต้องมีการดำเนินการกับสินค้านั้นในขั้นต่อไป
15. สมาชิกควรกำหนดรูปแบบของแบบฟอร์มและเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่ต้องการสำหรับการค้าไร้กระดาษไว้ด้วย
การดำเนินการของประเทศไทย
ประเทศไทยได้ตราพระราบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ออกใช้บังคับเมื่อปี พ.ศ. 2544 ซึ่งเป็นกฎหมายที่รองรับการดำเนินการการค้าไร้กระดาษได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยที่มีนาจหน้าที่เกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก
ที่สำคัญคือ กรมศุลกากรได้พัฒนาการปฏิบัติงานโดยนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การนำเข้าส่งออก เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบระบบ Single Window ได้ให้บริการทางด้านพิธีการทางศุลกากรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แล้วบางส่วน
สำหรับหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมกำหับดูแลการนำเข้าส่งออก เช่น กรมการค้าต่างประเทศที่มีอำนาจหน้าที่ออกใบอนุญาตให้นำเข้าส่งออก หนังสือสำคัญทางการค้า หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า ก็ได้เริ่มนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ในการยื่นคำขอ การออกใบอนุญาต การออกหนังสือรับรองต่างฯ บ้างแล้ว
ล่าสุด ประเทศไทยได้ตราพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ออกใช้บังคับ ซึ่งจะมีผลใช้บังคับทั้งฉบับในวันที่ 10 มกราคม 2566 จะเป็นกฎหมายที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินการการค้าไร้กระดาษของไทยให้เห็นผลเต็มรูปแบบได้เร็วขึ้น