ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสดิ่ง 3.95 ดอลล์ ผวาเฟดขึ้นดอกเบี้ยทุบเศรษฐกิจ
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพฤหัสบดี(17พ.ย.)ปรับตัวลง 3.95 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย และส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญา โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 3.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่า เฟดอาจจะต้องทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงเพื่อให้เงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงมีความตึงตัว
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของเฟด ดีดตัวเหนือระดับ 4.4% และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปี ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรเกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมัน ขณะที่คลายความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ขีปนาวุธที่มีการยิงตกใส่ชายแดนโปแลนด์ เป็นขีปนาวุธของระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนเพื่อสกัดขีปนาวุธของรัสเซีย
ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากการที่จีนรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่งและอีกหลายเมืองพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งจะทำให้จีนใช้มาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในประเทศ