'ตำรวจ-ก.ล.ต.' เร่งสางปมหุ้น MORE หลังพบความผิดปกติ
การสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการซื้อขายหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) หลังพบความผิดปกติที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิด หรือ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมหารือกับ น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เกี่ยวกับแนวทางการสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการซื้อขายหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) หลังพบความผิดปกติที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิด หรือ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวว่า แนวทางการตรวจสอบหลังจากนี้ทางคณะทำงานสืบสวนสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงของตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จะยังคงมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคล รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเช่นไร ผิดหลัก พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำกลุ่มบริษัทโบรกเกอร์ ที่เป็นผู้เสียหาย และ ขั้นตอนการตรวจสอบหลักฐานเอกสารต่างๆ
รายงานข่าวจาก บช.ก.เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ข้อมูลข้อกฎหมายต่างๆค่อนข้างซับซ้อน ทางคณะทำงานจึงจำเป็นต้องเชิญตัวพยานบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมากมาเข้าให้ปากคำอีกหลายปาก โดยเฉพาะเสี่ย ม. กับ เสี่ย ป. ตัวละครสำคัญที่ถูกพาดพิงมาให้ปากคำด้วยเช่นกัน
ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า ปปง. ได้เชิญตัวผู้ลงทุนรายใหญ่ที่ส่งคำสั่งขายหุ้น MORE ในระหว่างวันที่ 10-11 พ.ย. 2565 จำนวน 26 ราย มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยทั้ง 26 รายนี้พบว่า เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ MORE จำนวน 6 ราย และยังพบว่ามีดารานักธุรกิจชื่อดังเกี่ยวข้องด้วย
แหล่งข่าวจากปปง.ระบุว่า รายชื่อฝั่งขายหุ้น MORE ที่เข้าตรวจสอบที่ได้รับมาทั้งหมดนั้น มีคำสั่งอายัดไปส่วนใหญ่แล้ว โดยทั้งหมดที่ขายออกมาประมาณ 4.5 พันล้านบาท และมีการอายัดไปแล้ว 1.3 พันล้านบาท โดยในการนี้มีโบรกเกอร์ 2 แห่งที่ไม่ทำตามกฎกระทรวง ไม่ส่งรายงาน Suspicious Transaction Report ให้กับปปง. ซึ่งจะมีการเอาผิดทั้งแพ่งและอาญาต่อไป ซึ่งต่อมาปรากฏว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีคำสั่งให้ บล.เอเชีย เวลท์ ระงับการประกอบธุรกิจชั่วคราว หลังพบว่าได้นำเงินในส่วนของ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์เพื่อลูกค้า ซึ่งเป็นบัญชีที่ลูกค้าจะโอนมาพักไว้ก่อนนำไปซื้อหุ้น ตามหลักแล้วห้ามนำไปใช้ในกรณีอื่นยกเว้นได้รับการยินยอมจากลูกค้า แต่บล.เอเชีย เวลท์ได้นำเงินก้อนดังกล่าวไปชำค่าหุ้น MORE โดยที่ลูกค้าไม่ยินยอม