ผลสำรวจชี้ปัญหาเงินเฟ้อ ปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจ เอเปค

นายเอดูอาโด เปโดรซา เลขาธิการสภาความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภาคพื้นแปซิฟิค(PECC)แถลงข่าวช่วงการประชุมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ถึงรายงานประจำปี 2021 - 2022จัดทำโดย  PECC ว่า จากการสำรวจประจำปีจากกลุ่มผู้เชีี่ยวชาญและผู้ร่วมกำหนดนโยบาย ในประเด็นความเห็นถึงสถานภาพเศรษฐกิจของภูมิภาค ( State of the Region 2021-2022) 

ซึ่งทำการสำรวจช่วงกลางส.ค.-กลางก.ย. 2565 ทำให้ทราบว่าความคาดหวังถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภูมิภาคมีทิศทางที่ลดลงจากสัดส่วนผู้ตอบสำรวจในปีก่อนที่ 55% เห็นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ แต่พอมาในปีนี้พบว่า มีเพียง 17% เท่านั้นที่ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ 

“ในทางตรงกันข้าม จะพบว่าจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามเพิ่มขึ้นจาก 17% ไปอยู่ที่ 60% เมื่อถามว่าถึงประเด็นต่างๆในแง่ร้ายที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ ดังนั้นเมื่อถามถึงคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจภูมิภาคพบว่าปี 2565 จะลดลงจาก5.1%ในปีที่ผ่านมา ไปอยู่ที่ 2.6% (คาดการณ์เมื่อต.ค.2565)”

สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจภูมิภาคเอเปค ได้แก่ การชะลอตัวเศรษฐกิจจีน ,ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกถดถอย,สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง,การปกป้องการค้าเพิ่มขึ้นและสงครามการค้า,ความขัดแย้งในยูเครน โดยผู้ตอบแบบสอบถามถึง51%บอกว่าห่วงปัญหาเงินเฟ้อสูงที่สุด

สอดคล้องกับความกังวลต่อความมั่นคงพลังงานซึ่งปีนี้พบว่าสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดย ปี 2565 สัดส่วน 33.9% ปี 2564 สัดส่วน16.4%และ ปี 2563 สัดส่วน 7.9%

เมื่อถามถึงการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ผลสำรวจชี้ว่า 73% ต่างมีความเห็นว่าปัญหาความตึงเครียดเชิงภูมิรัฐศาสตร์จะมีผลต่อการลงทุนและการค้าในอนาคต ดังนั้นการประชุมที่เกิดขึ้น จะช่วยหาทางออกในระดับนโยบายและผู้นำควรร่วมกันแก้ปัญหาเพื่อผลในระยะยาว  พร้อมกับมองว่าการประชุมที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้นำจะได้มาพบปะกันและสร้างบรรยากาศที่ดีในภูมิภาค 

ด้านแถลงการณ์นางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐ(ยูเอสทีอาร์) ระบว่า สหรัฐที่จะเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี 2566 นั้น พร้อมพลักดันความมุ่งมั่นต่างๆ และจะนำเรื่องความยั่งยืนมาเป็นลำดับที่สำคัญในส่วนเนื่องหาของสาระด้านการค้าและการลงทุน เบื้องต้นในส่วนการประชุมรัฐมนตรีการค้าและต่างประเทศเอเปค กำหนดจัดขึ้นที่เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน