ขบ.เตรียมพร้อมปรับมิเตอร์แท็กซี่รับราคาใหม่ รอประกาศราชกิจจานุเบกษา
ขบ.เตรียมพร้อมเปิดพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ลุยปรับมิเตอร์แท็กซี่กว่า 8 หมื่นคันภายใน 60 วัน หลัง “คมนาคม” ออกกฎกระทรวงอนุมัติขึ้นราคาค่าโดยสารรถจดทะเบียนในกรุงเทพฯ สตาร์ทรถใหญ่ 40 บาท พร้อมปรับขึ้นตามระยะทาง ลุ้น ครม.ไฟเขียว ก่อนออกประกาศราชกิจจานุเบกษา
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ในอัตราใหม่ โดยระบุว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมโดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ลงนามในคำสั่งประกาศกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.65 เรื่องกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกโดยสาร และ ค่าบริการอื่นๆ สำหรับรถรับจ้างบรรทุกโดยสารไม่เกินเจ็ดคนที่จดทะเบียนในกรุเทพมหานครแล้ว
แต่อย่างไรก็ดี แท็กซี่จะยังไม่สามารถปรับราคาค่าโดยสารได้เลยในขณะนี้ เนื่องจากตามขั้นตอนภายหลังจากที่กระทรวงคมนาคมประกาศแล้วจะต้องส่งเรื่องดังกล่าวไปยัง เลขา ครม. เพื่อประกาศในราชกิจจา เมื่อประกาศในราชกิจจาจึงจะมีผลบังคับให้มีการจัดเก็บค่าโดยสารแท็กซี่อัตราใหม่
สำหรับขั้นตอนที่จะปรับราคาแท็กซี่ใหม่ได้นั้นต้องรอให้มีประกาศในราชกิจจา เพื่อกำหนดอัตราค่าแท็กซี่ใหม่ก่อน เมื่อประกาศแล้วทาง ขบ.จะเปิดให้ผู้ประกอบการแท็กซี่ หรือเจ้าของแท็กซี่ที่จดทะเบียนอยู่ในระบบกว่า 80,000 คัน แต่วิ่งใช้งานจริงประมาณ 50,000 - 60,000 คัน นำมิเตอร์รถแท็กซี่ไปปรับจูนให้เป็นการคำนวณตามราคาใหม่ตามต้นสังกัดและนำรถ หรือ มิเตอร์ที่มีการปรับจูนแล้วมาให้ ขบ. ตรวจสอบและลงทะเบียน
โดย ขบ. จะเพิ่มการอำนวยความสะดวกด้วยการเปิดพื้นที่สถานีกลางบางซื่อให้เจ้าของรถแท็กซี่มิเตอร์ หรือ นำเฉพาะมิเตอร์มาตรวจลงทะเบียนกับ ขบ. ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบมิเตอร์คำนวณราคาใหม่แล้วเสร็จใน 60 วัน ซึ่งหากรถแท็กซี่คันใดนำมิเตอร์ไปปรับจูนและให้ ขบ.ตรวจแล้วเสร็จก็สามารถรถจัดเก็บค่าโดยสารราคาใหม่ได้เลย
“การปรับค่าโดยสารแท็กซี่อัตราใหม่นั้น ทาง ขบ. ก็จะยังมีการสุ่ม หรือ ตรวจสอบ รถแท็กซี่ที่ให้บริการในระบบอยู่เช่นเดิมทั้งในเรื่องมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย ราคาแท็กซี่ ของผู้ประกอบการ และ ผู้ใช้บริการ หากผู้ขับแท็กซี่กระทำความผิด ก็จะมีการลงโทษตามระเบียบเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามยืนยันว่า เมื่อแท็กซี่ปรับจูนมิเตอร์ และ ตรวจสอบลงทะเบียนกับ ขบ. แล้ว ผู้ประกอบการ หรือคนขับถึงจะประบราคาใหม่ได้”
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามในประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร และค่าบริการอื่น สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน
ทั้งนี้รายละเอียดของประกาศบางส่วนระบุถึงการกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร สำหรับกรณีรถยนต์รับจ้าง ที่มีลักษณะเป็นรถเก๋งสามตอน รถเก๋งสามตอนแวน รถยนต์นั่งสามตอน และรถยนต์นั่งสามตอนแวน ให้กำหนด ดังต่อไปนี้
- ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 40.00 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 7.00 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8.00 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท
ส่วนกรณีรถยนต์รับจ้าง นอกจากข้อ 1 ให้กำหนด ดังต่อไปนี้
- ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 35.00 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 7.00 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8.00 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 บาท
- ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท
นอกจากนี้ กรณีรถในกลุ่มที่ 1 หรือ 2 ไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้กำหนดอัตรานาทีละ 3.00 บาท ส่วนกรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรีอระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เรียกเก็บค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 20 บาท และกรณีการจ้างจากท่าอากาศยานดอนเมืองหรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยรถยนต์รับจ้างนั้น จอดรอคนโดยสารอยู่ในท่าอากาศยาน ณ จุดที่ได้จัดไว้เป็นการเฉพาะ ให้เรียกเก็บค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 50 บาท