นายกฯ สั่งอุ้ม ‘ค่าไฟ’ ทุกกลุ่ม ลุ้น กกพ. เคาะพรุ่งนี้
คาดการณ์ว่าปี 2566 สถานการณ์ความผันผวนด้านพลังงานจะยังคงอยู่ และเพื่อให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งมีสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวเดินหน้าไปได้ต่อเนื่อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ระบุ คาดการณ์ว่าปี 2566 สถานการณ์ความผันผวนด้านพลังงานจะยังคงอยู่ และเพื่อให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งมีสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวเดินหน้าไปได้ต่อเนื่อง กระทรวงพลังงาน ได้ช่วยเหลือประชาชนสำหรับก๊าซหุงต้ม (LPG) เพื่อลดต้นทุนค่าครองชีพต่อเนื่องจากปี 2565 โดยตรึงราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม(กก.) จนถึงวันที่ 31 ม.ค.2566 และช่วยส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึงวันที่ 31 มี.ค.2566และ ปตท.ยังให้ส่วนลดแก่ร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหารที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 100 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 มี.ค. 2566
ปี 2566 ยังต้องติดตามสถานการณ์พลังงานอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการพลังงานให้มีความต่อเนื่อง เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอกับที่คาดการณ์ว่าแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้น ซึ่งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3-4% จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การบริโภค การลงทุน และการผลิตภาคเกษตร สถานการณ์กำลังปรับตัวไปในทิศทางที่เป็นบวก แต่เรายังเผชิญปัจจัยที่มีความไม่แน่นอนด้านพลังงาน และกระแสการลดโลกร้อน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงราคาพลังงานจึงให้ทบทวนราคาค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ให้กับภาคธุรกิจให้ถูกลงกว่าเดิมที่ 190.44 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นค่าไฟ 5.69 บาทต่อหน่วย ซึ่งราคาอาจลดลงเล็กน้อยแต่อาจไม่ถูกใจใครบางกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ได้ส่งตัวเลขให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เรียบร้อยแล้ว โดยวันที่ 28 ธ.ค. 2565 จะมีการประชุมบอร์ดกกพ.เพื่อคำนวณตัวเลขใหม่อีกครั้งในหลายมิติ
ทั้งนี้ อยากทำความเข้าใจว่าเป็นวิกฤติพลังงานจริง ๆ ซึ่งการนำเข้าราคาก๊าซธรรมชาติ LNG สูงมากระดับ 29-30 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ดังนั้น สิ่งที่ต้องคิดคือ การปรับตัว ซึ่งขณะนี้ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จะเร่งกำลังผลิตในอ่าวไทยให้มากขึ้น ซึ่งต้นปี 2566 จะเพิ่มกำลังผลิตได้ จึงอยากให้เข้าใจว่าของมีขึ้นได้ก็ลงได้
วันนี้เรานำเข้าพลังงานแพงมาผลิตไฟฟ้าราคาไม่คิดค่าสายส่งราวหน่วยละ 6.50 บาท หากรวมจะอยู่ที่หน่วยละ 7-8 บาท เราจะต้องลดการนำเข้าก๊าซ LNG ใช้น้ำมันดีเซลมาผลิตไฟเดือนละ 400 ล้านลิตร หรือ 15% และการขยายเวลาใช้ถ่านหิน 5% รวมเป็น 20% ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกหนี้สิ้นปี 1.5 แสนล้านบาท ดังนั้น ภาคธุรกิจฟื้นตัวดีขึ้น การใช้ไฟฟ้ามาก และยิ่งมากเท่าไหร่เราต้องนำเข้า LNG มากขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ภาคครัวเรือนมีการประหยัด ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ปตท.ดูว่าจะช่วยเหลืออย่างไร เพราะเป็นกลุ่มที่ใช้ลดลงซึ่งใช้ไฟโดยรวมที่ 17% ของภาคพลังงานทั้งหมด รัฐบาลก็ไม่ได้อยากไปผลักภาระให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีบุญคุณต่อการเติบโตของประเทศ จึงอยากให้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งทุกฝ่ายพยายามเต็มที่ ต้องเสริมสภาพคล่อง กฟผ.ด้วย ซึ่งพิจารณาตัวเลขคืน กฟผ.ที่หน่วยละ 0.33 สตางค์คือต่ำเท่าที่จะต่ำได้แล้ว
อยากให้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ช่วยดูตรงนี้เพราะเป็นภาคพลังงานที่ใช้แก๊ส LNG เป็นเชื้อเพลิงสูงและใช้ในราคาเฉลี่ยเหมือนกันซึ่งเอกชนยังไม่มีความพยายามใช้น้ำมันเตาหรือแก๊สตัวอื่นเลย อย่าเอาค่าเฉลี่ยราคาเท่ากับประชาชนกว่า 23 ล้านครัวเรือนมีการปรับค่า Ft ไปที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นค่าไฟหน่วยละ 4.72 บาท ตั้งแต่ต้นปี 2565
ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ระบุ ปตท.อยู่ระหว่างหาวิธีช่วยเหลือตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ขอความร่วมมือพิจารณาจัดสรรรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน ระยะเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่ ม.ค. - เม.ย. 66) เป็น 6,000 ล้านบาท มาช่วยสนับสนุนในรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า แบ่งเป็นส่วนที่ 1 ลดราคาค่าก๊าซฯ ให้กฟผ. เพื่อลดค่าไฟกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 500 หน่วยต่อเดือน
ส่วนที่ 2 ลดราคาก๊าซฯ สำหรับโรงแยกก๊าซฯ ในการคำนวณต้นทุนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อเป็นเชื้อเพลิง ทั้งนี้ การช่วยเหลือมีหลายวิธีที่ไม่ใช่เฉพาะการช่วยเหลือในเรื่องของเงินเท่านั้น แต่ยังมีการบริหารจัดการเพื่อที่จะทำให้ต้นทุนลดลงเพื่อเอาไปคำนวณช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เป็นต้น โดยวันที่ 27 ธ.ค. 2565 จะมีการประชุมบอร์ดบริหารอีกครั้ง
แม้ภาพเศรษฐกิจทั่วโลกจะมีแนวโน้มชะลอตัวตามที่หลายคนคาดการณ์ แต่การเติบโตเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะเติบโตกว่าปีนี้แน่นอน โชคดีที่ประเทศไทยเติบโตมากกว่าโลกทำให้จีดีปีหน้าจะโตมากกว่าปีนี้ มาจากปัจจัยเพราะเราเพิ่งเปิดประเทศเต็มที่จากปัญหาโควิด-19 เพียง 9 เดือน เครื่องจักรยังเดินหน้าไม่เต็มที่ จึงมองว่าปีหน้าจะเติบโตเต็มที่แน่นอน ส่วนคาดการณ์ราคาน้ำมันปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 85-95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ระบุ หากภาคเอกชนต้องการให้ปรับลดค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 ภาครัฐจะต้องหาเงินมาสนับสนุน หรือให้งดนำส่งเงินเข้ารัฐไม่ใช่แค่เลื่อนการนำจ่ายอย่างที่เคยขอมา ทั้งนี้ รายได้ กฟผ. นำส่งรัฐนั้นค้างจ่ายปีก่อนที่ 6,000 ล้านบาท และในปี2565 อีกประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่งหากให้แบกรับไปมากกว่านี้คงไม่ไหว